"you-know-who" (#DMBJdailyquote)
Daomu Biji (Grave Robbers’ Chronicles) One-shot Fan-fiction
Pairing: 瓶邪 ผิงเสีย
**(a little bit) Spoiler Warning**
...นายน้อยสาม ช่วงนี้อากาศหนาวเย็น เชื่อว่าที่นั่นก็คงหนีไม่พ้นสภาวะอากาศแปรปรวนทั่วแผ่นดินใหญ่เช่นกัน อย่าลืมทำร่างกายให้อบอุ่น ดูแลสุขภาพด้วย
'...อย่าลืมทำร่างกายให้อบอุ่น ดูแลสุขภาพด้วย' ตอนท้ายของจดหมายจากเสี่ยวฮัวบอกเอาไว้เช่นนั้น
แต่ดูเหมือนคืนนี้ผมจะเผลอนอนดิ้นจนทำผ้าห่มหลุดหายไปเสียแล้ว...
อยู่ที่นี่มีไฟฟ้าให้ใช้จำกัด ยามค่ำคืนมืดมิดไร้แสง ทุกสิ่งรอบตัวกลายเป็นสีดำสนิท
เพราะรู้เช่นนั้นจึงไม่มีความคิดที่จะลืมตาขึ้นมาควานหาผ้าห่ม สิ่งที่ผมทำมีแค่เพียงกอดซุกตัวเอง ขดร่างฝังตัวลึกลงในที่นอนให้แนบชิดที่สุด หวังให้ฟูก ผ้าปูที่นอน หมอน ช่วยป้องกันตัวผมจากลมหนาวที่พัดแทรกเข้ามาในตัวอาคาร
ส่วนอีกคนในบ้าน นายเรือพ่วงตลอดกาลคนนั้น พอตกกลางคืนก็ชอบเดินท่อมๆ ไปในบ้าน นอนบ้างไม่นอนบ้าง บางทีก็เดินออกไปสูดอากาศนับดาวทำตัวอินดี้ไปตามประสาของเขา ด้วยอารามง่วงตอนนั้น ผมไม่คิดสงสัยและไม่คิดจะตามหา ต่อให้เขาหายไป ผมก็ไม่รู้
ผมซุกหน้าลงกับหมอน นึกบ่นในใจ อากาศแปรปรวนจริงๆ ...รู้งี้เชื่อเสี่ยวฮัวดีกว่า คืนพรุ่งนี้จะใส่เสื้อขนเป็ดเข้านอนแม่งให้รู้แล้วรู้รอด
ยังดีที่ร่างกายของผมผ่านการฝึกฝนผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก อากาศหนาวแบบนี้ อย่างมากก็แค่ทำให้รู้สึกไม่สบายตัว แต่ไม่ถึงกับทรมาน ลองเทียบกับตอนปีนเขาฉางไป๋ซานแต่ละครั้ง หรือตอนที่ต้องนั่งหนาวล่อนจ้อนครั้งล่าสุด ความหนาวแค่นี้ไม่ทำให้เดือดร้อนสักเท่าไหร่
ระหว่างที่กำลังจะหลับต่อนั้นเอง ผมรู้สึกได้ถึงน้ำหนักของสิ่งสิ่งหนึ่งห่อคลุมลงบนตัวผม ในแวบแรกผมสะดุ้ง แต่พอรู้ว่าเป็นผ้าห่มของตนเองจึงเอามือคว้ากำสุ่มๆ แล้วดึงเข้าหาตัว
มีผ้าห่มอุ่นกว่าไม่มีจริงๆ นั่นละ
ผมไม่คิดอะไรมาก ปล่อยตัวเองให้หลับไป
เมื่อผมตื่นขึ้นมาอีกทีตอนเช้า บนตัวผมมีผ้าห่มผืนหนึ่ง ไม่รู้ใครเอามาห่มให้
"เมื่อคืนนายเก็บผ้าห่มมาห่มให้ฉันเหรอ?" ผมหันไปถามคนที่อาศัยอยู่ร่วมบ้านหลังเดียวกัน
เมินโหยวผิงกำลังยืนเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างไม่ได้สนใจผม ผมจึงถามย้ำอีกที
ต้องใช้เวลาสักพักกว่าเขาจะยอมหันมามองผมอย่างเรียบเฉย เขาไม่ได้ให้คำตอบแก่ผม อันที่จริงเขาไม่ได้พูดอะไรเลย เพียงใช้สายตามองมาแล้วก็หันหน้ากลับไป ไม่สนใจผมอีก
หากเป็นตัวผมในอดีต คงจะโมโหแล้วตามตื๊อถามจนกว่าจะได้คำตอบ แต่ตัวผมในปัจจุบันทำแค่เพียงถอนหายใจ อยู่กับเมินโหยวผิงมาจนถึงป่านนี้ ผมชินแล้ว เขาจะพูดหรือไม่พูดก็สุดแท้แต่ความปรารถนาของเขา
ที่ริมฝีปากผมกลับมีแต่รอยยิ้มอ่อนอกอ่อนใจ
ผมไม่รู้เล้ย ไม่รู้เลยสักนิด ว่าใครเป็นคนห่มผ้าให้ผม
...ทั้งๆ ที่ในหอดินแห่งนี้ก็เหมือนจะมีกันอยู่แค่เราสองคน
+++
END
03/02/2016
END
03/02/2016
#dmbjdailyquote : 'บนตัวผมมีผ้าห่มผืนหนึ่ง ไม่รู้ใครเอามาห่มให้' (อู๋เสีย) #day201
Talk Time:
สวัสดีค่า~! ไม่ได้เขียนฟิคเต้ามู่มานานมวาก! (← ทำไมเริ่มต้นด้วยทอล์กแบบนี้ทุกที 5555 แต่ละเรื่องเขียนทิ้งช่วงห่างกันเกิ๊น) แถมรอบนี้มาสั้นอีกต่างหาก แต่เดิมเป็นไอเดียที่อยากจะทวีตทิ้งทวีตขว้างแซวเดลี่เล่น แต่พอเอามาพิมพ์แล้วมันไม่จบใน 140 ตัวอักษรเสียที เลยเอามาเวิ่นๆ ไปๆ มาๆ ก็ออกมาเป็นฟิคเรื่องนี้แหละค่ะ
ไม่รู้เหมือนกันว่ายังเขียนออกมาสนุกเหมือนเดิมไหม สารภาพเลยว่าตั้งแต่เห็นสองคนนี้เข้าประตูเงินประตูทองไปแล้ว ก็รู้สึกฟิน เหมือนมโนได้รับการเติมเต็มจนไม่ต้องจิ้นต้องชิปอะไรต่อแล้ว (ฮา) ก็เลยไม่ค่อยได้เขียนฟิคเต้ามู่เท่าไหร่แล้ว ถ้าฟิคเรื่องนี้ทำให้รู้สึกมุมิในหัวใจกับผิงเสียเวอร์ชั่นหลังแต่งงาน (?) ได้บ้างก็ดีใจแล้วล่ะค่ะ
สำหรับชื่อเรื่องของฟิคเรื่องนี้...ปกติถ้าเป็นเดลี่ธรรมดา (#DMBJdaily) เวลาเราไม่รู้จะตั้งชื่อเรื่องว่าอะไร ก็จะเอาหัวข้อเดลี่อันนั้นมาตั้งชื่อเลย (ยกเว้นโอร๋งฉี่หลิง 5555) พอมาคราวนี้ เป็นกิจกรรม #DMBJdailyquote ซึ่งหัวข้อเป็นโควต (ข้อความ) ที่ยาวมากปุ๊บ เรานึกไม่ออกหนักมาก ว่าควรจะตั้งชื่อว่าอะไรดี เลยโด้ชื่ออังกฤษของ เพลงคนที่คุณก็รู้ว่าใคร ซึ่งก็คือ "you-know-who" มาตั้งเป็นชื่อเรื่องค่ะ เนื้อหาก็คอนเซปต์ใกล้เคียงกัน แต่ฟิคเราน่ารักสู้เพลงต้นฉบับไม่ได้ ฮือๆ โฮๆ #เหมือนแค่ชื่อที่เหลือสู้ไม่ได้
รอบนี้เป็นการเล่น #DMBJdailyquote ครั้งแรกของบลอคนี้เลย ขอฝากเนื้อฝากตัว (อีกครั้ง) ด้วยนะคะ ถ้าใครอยากรู้วิธีเล่น เชิญตามไปส่องต่อ ในบอร์ด ค่ะ
ด้วยรัก จากด้วง M.