วันจันทร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

[Daomu One-shot][瓶邪] ป่วย

 

"ป่วย" (#DMBJdaily)

 

Daomu Biji (Grave Robbers’ Chronicles) One-shot Fan-fiction
Pairing: 瓶邪 ผิงเสีย



**(a little bit) Spoiler Warning**




จางฉี่หลิงรู้สึกผิดปกติ

ตั้งแต่กลับมาจากเรือนไม้ไหม้ไฟ เขาซึ่งพยายามทะลวงเข้าไปหาเบาะแสที่ยังหลงเหลือท่ามกลางกองเพลิง สุดท้ายทั้งเนื้อทั้งตัวเลยเป็นแผลเต็มไปหมด

อู๋เสียบ่นเขาไม่หยุดปาก บอกว่าเขาไม่รู้จักคิด กระโดดเข้าไปในกองเพลิงเผาไหม้เป็นพันองศามีแต่ตายกับตาย ยังดีที่หนนี้แค่เป็นแผลพุพองกับบาดเจ็บที่มือ หากเป็นมากกว่านี้ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะหาญาติที่ไหนมารับรองจัดการพิธีศพให้เขาได้

แต่ถึงจะบ่นแบบนั้น ตกเย็นหลังอาบน้ำล้างเนื้อล้างตัว อู๋เสียก็มาช่วยเปลี่ยนยาให้เขา แผลไฟไหม้มีอยู่ทั่วตัว มีหลายจุดแต่ไม่ร้ายแรง บางตำแหน่งเจ้าของแผลเปลี่ยนยาเองไม่ได้ จึงแบ่งกันกับอู๋เสีย คนหนึ่งทำแผลตัวเองเฉพาะด้านหน้า อีกคนเปลี่ยนยาตรงแผลที่ด้านหลัง

อู๋เสียยังไม่หายหงุดหงิด หนนี้เปลี่ยนเป้าไปด่านายอ้วนแทน เรื่องที่พวกเขาไม่ยอมบุกเข้าไปในบ้านตั้งแต่เนิ่นๆ จนพลาดท่าเสียทีโดนเผาทำลายหลักฐาน ส่งผลให้ต้องเลือดตกยางออกกันแบบนี้

เปลี่ยนยาไปบ่นไปไม่หยุด จนนายอ้วนหันมาถามว่าบ่นขนาดนี้เป็นแม่หรือเป็น... พูดได้ไม่ทันจบคำดี อู๋เสียก็หยิบแก้วน้ำแถวนั้นปาใส่นายอ้วน นายอ้วนรับทันใบหนึ่ง เอามือปัดอีกใบร่วงหล่นดังเคร้ง

นายอ้วนหัวเราะชอบใจ บอกว่าแบบนี้เข้าท่าดี เก็บแก้วมาเคาะๆ กันสองใบ บอกว่าเสียงดังใช้ได้ เหมาะจะเอาไว้แขวนประตูหน้าต่างกันคนบุกรุก

อู๋เสียไม่สนใจแล้ว ตอนนี้ทำแผลที่หลังจางฉี่หลิงจนเสร็จ เลยลุกมาช่วยทำแผลที่มือซ้ายต่อ

ในตอนนั้นเองที่จางฉี่หลิงชักมือกลับ

"ฉันทำเองได้"

"อ๊ะ โทษที" อู๋เสียเองก็ผวาถอยเพราะท่าทีของเขาเช่นกัน

ชายหนุ่มถอนสองมือออก แล้ววางแปะลงบนหน้าเข่าตัวเองอย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัว เปลี่ยนมานั่งมองเขาเงียบๆ แทน

บรรยากาศสงบลง แม้แต่นายอ้วนยังหยุดส่งเสียงรบกวน จางฉี่หลิงใช้มือขวาอันแคล่วคล่องใส่ยาสมุนไพรที่หมอบ้านเท้าเปล่าบดใส่กระปุกให้มา จากนั้นก็สาวผ้าพันแผลออกจากม้วน พันทบรอบมือซ้ายตัวเองจนเสร็จอย่างไม่ยากเย็นนัก

ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไร เขาเริ่มรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวประหลาดพิกล ไม่ใช่เพียงเพราะเรื่องความทรงจำไม่ปะติดปะต่อเกี่ยวกับชิ้นส่วนเหล็กอันตรายในหีบ แต่คล้ายเขาเริ่มมีอาการแทรกซ้อนปั่นป่วนในตัวนับตั้งแต่ออกมาจากเรือนไม้บ้านของอาคุน

ในคราแรกเขาคิดว่าอาจเป็นผลจากการขาดออกซิเจนตอนที่มุดเข้าไปใต้เรือนไม้ที่ไฟไหม้ แต่พอออกจากตัวเรือนมานานแล้วก็ยังไม่หาย พอเกิดความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายได้ จางฉี่หลิงก็ไม่ต้องการให้ใครเข้าใกล้เกินจำเป็น

พอเขาเปรยเรื่องนี้กับอู๋เสีย อู๋เสียก็ร้องว่า "นั่นไงล่ะ!" ตบเข่าฉาด บอกว่าคิดแล้วเชียวว่าคงไม่ได้ไม่เป็นไร ถึงกับพุ่งตรงเข้ามาจะจับหน้าผากวัดไข้ให้

จางฉี่หลิงคว้ามือของเขาไว้ทัน ต่างฝ่ายต่างใช้สัญชาตญาณมากกว่าความคิดตัดสินใจ ทั้งสองจ้องหน้ากันอยู่เช่นนั้น จนอู๋เสียเป็นฝ่ายลดมือลงถอยออกไปอย่างเคอะเขิน

แต่พออู๋เสียเปลี่ยนมาสอบถามอาการแทน เขาเองก็ตอบไม่ได้ ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรดี นั่งมองหน้ากันแบบทำอะไรไม่ถูกทั้งสองฝ่ายอยู่เช่นนั้น ในที่สุดอู๋เสียก็ตัดบทบอกว่าเขาคงอ่อนเพลียเกินไป รีบไล่ให้เขาหาน้ำกินแล้วไปนอนพัก

ชายหนุ่มวิ่งข้ามห้องไปจัดแจงปูที่นอน ดับไฟไปครึ่งห้อง แล้วบอกให้เขาเข้านอนแต่หัวค่ำ ต่อจากนี้ตนกับนายอ้วนจะหารือกันเอง คนป่วยนอนรอฟังแค่สรุปก็พอ

แต่ถึงจะพูดเช่นนั้น จุดที่อู๋เสียกับนายอ้วนไปหารือกันก็ห่างแค่ปลายระเบียง จางฉี่หลิงที่นอนห่มผ้ายังคงได้ยินเสียงของทั้งสองคนพูดคุยกันชัดเจน เริ่มจากแค่ปรึกษาหารือกัน จากนั้นก็ระบายความโกรธเคืองใส่กัน สุดท้ายอู๋เสียที่เด็กกว่าเป็นฝ่ายควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ต้องวิ่งกลับเข้ามาในห้องแล้วเอาหัวโขกกำแพงสงบใจสองสามที เล่นเอาเรือนไม้ทั้งหลังสั่นสะเทือนเลือนลั่นไปหมด

พออู๋เสียหันกลับมาเห็นว่ามีคนนอนมองอยู่ ก็ถามห้วนๆ "ไหนบอกอยากรักษาระยะห่าง? นายหายดีแล้วเหรอ"

เขาส่ายหน้า

"งั้นก็นอนไป" อู๋เสียโบกมือไล่ แล้วเดินกลับออกไปคุยกับนายอ้วนต่อ

จางฉี่หลิงพลิกตัวหันไปทางอื่น แล้วก็ส่ายหน้า

อาการป่วยนี้ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรดี

หากบอกว่ารู้สึกปั่นป่วนในท้อง ราวกับมีผีเสื้อบินวนอยู่ในกระเพาะ แบบนี้จะฟังดูตลกเกินไปสำหรับคนความจำเสื่อมคนหนึ่งไหม?


+++

END
06/07/2015



#dmbjdaily 42 days left : Space



Talk Time:

เรื่องนี้ติดอยู่ในหัวมานานมาก! ที่จริงอยากเขียนถึงอาการป่วยของเถ้าแก่อู๋ตอนที่ได้เจอเสี่ยวเกอครั้งแรกหลังสิบปีค่ะ แต่...เนต้าไม่แม่น เขียนทั้งทีก็อยากเขียนดีๆ ไปเลย ไม่อยากกลับมาแก้ เลยโบ้ยมาลงซีรีส์ "รักเกิดที่ปาหน่าย" (ตั้งชื่อเอาเอง) อีกแล้วซะงั้น ก๊าก ฟิคยัยคนนี้เอะอะก็ใช้ปาหน่ายเป็นสถานที่ถ่ายทำลูกเดียว // v \\ แง้ ก็มันโมเอ้ะง่ะ เราชอบ 5555

(เรื่องนี้เกิดก่อน Stay จ้ะ)

อันนี้เผื่อใครไม่เก็ต ผีเสื้อนี้มาจากสำนวน Butterflies in my stomach ค่ะ ใช้บรรยายถึงอาการเวลาเจอคนที่ชอบแล้วตกประหม่า รู้สึกมวนในท้องไรงี้

ถ้ายังนึกไม่ออก ลองหาเพลง "ผีเสื้อ" ของพี่แสตมป์ฟังดูนะ (หาลิงก์เพลงออฟิเชียลไม่เจอ เอาเป็นว่าลองกูเกิลดูก็มีขึ้นมาแหละ 5555) หลักๆ แล้วได้แรงบันดาลใจมาจากเพลงนี้ค่ะ 5555 นี่ก็ชวนฟังแต่เพลงแสตมป์ไม่เลิก! ฟังแล้วอยากใช้มุกผีเสื้อบ้าง ////7//// กราบว์ค่ะ พี่เป็นแรงบันดาลใจที่ดีของน้องเหลือเกิน

อันนี้หนีความจริงมาเวิ่นช่วงป่วย ส่วนของที่จะลงขายงานเต้ามู่โอนลี่ (DMBJ Only Event) เดี๋ยวจะมาประกาศอีกทีค่ะ ติดตามทวิตเตอร์ @LYMDM100palette เอาไว้นะคะ (หรือถ้าใครไม่อยากโดนฟลัดด้วยซีรีส์ หยางหยาง อี้เฟิง กรี๊ดพี่เหยาหล่อมว้าก อยากกัดแขนพี่พาน บลาๆๆๆ ก็ส่องบลอคนี้แทนได้ค่ะ แง ขอโทษค่ะ แอดมินติ่งหนักมาก)

ด้วยรัก จากด้วง M.