วันพฤหัสบดีที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2558

[Daomu One-shot][瓶邪] ภาพถ่าย


"ภาพถ่าย"

 

Daomu Biji (Grave Robbers’ Chronicles) One-shot Fan-fiction
Pairing: 瓶邪 ผิงเสีย






วันนี้แดดดีเป็นพิเศษ

ตอนมองลอดหน้าต่างออกไปด้านนอก ในหัวพลันนึกถึงแม่ขึ้นมา

หังโจวในฤดูฝนก็ชุ่มชื้นดีอยู่หรอก ทว่าบรรยากาศที่เหมาะแก่การร่ายกลอนขับกวีแล้วหลับคาหนังสือเช่นนั้น ไม่มีแม่บ้านคนใดชื่นชอบ ดังนั้นวันไหนที่แม่เงยหน้าเห็นท้องฟ้าแบบนี้ ก็จะทิ้งงานในมือทุกอย่าง รีบไปซักผ้าให้ทันตากก่อนแดดหมด

นึกแล้วก็รู้สึกโชคดีที่ผมเกิดเป็นลูกชาย ไม่งั้นตัวเองก็คงถึงวัยต้องบ่นแบบนั้นเช่นกัน

แสงแดดแบบนี้ ท้องฟ้าแบบนี้ ผมเห็นแล้วรู้สึกเพียงว่า ถ้าออกไปถ่ายรูปต้องได้ภาพดีๆ ติดมือกลับมาแน่ ดังนั้นผมจึงหยิบกระเป๋าเงิน ลากเมินโหยวผิงออกไปนอกบ้านพร้อมกล้องถ่ายรูปตัวหนึ่ง

เมินโหยวผิงไม่หือไม่อือ เดินตามมาเงียบๆ ตลอดทางไม่ถามอะไรสักคำ ตอนผมกำลังยืนเช็กภาพในกล้องถ่ายรูปตัวโปรด หางตาเหลือบไปเห็นเมินโหยวผิงกำลังยืนเหม่อ เลยยื่นกล้องไปให้เขาร่วมดูภาพจากหน้าจอด้วย

"นายว่าเป็นไง" ความจริงผมก็ถามไปอย่างนั้นเอง แต่พอเมินโหยวผิงเงยหน้าขึ้นจากจอกล้องดิจิตอลในมือ มองผมนิ่งๆ แล้วเลิกคิ้วหนึ่งที รู้สึกเหมือนกำลังโดนหยามพิกล ผมเลยยัดเยียดกล้องตัวเองใส่มือเมินโหยวผิง บอกว่าอยากลองเห็นภาพจากมุมมองสายตาเขาบ้าง

เมินโหยวผิงจ้องกล้องในมือครู่หนึ่ง ยกขึ้นมาถ่ายส่งๆ หนึ่งแชะ แล้วยื่นกล้องกลับคืนมาอย่างรวดเร็ว

พลันนั้นผมรู้สึกว่าตัวเองพลาดท่าแล้ว เมื่อครู่ก็แค่พูดเล่นไปแบบนั้นเอง ไม่คิดว่าเขาจะยอมถ่ายจริง เลยไม่ได้ระบุว่าให้ตั้งใจถ่ายด้วย ตอนนี้เขาถ่ายเสร็จตามคำขอผมแล้ว จะไปเพิ่มเงื่อนไขทีหลังก็สายเกินไป รู้สึกเสียใจนัก

พอเปิดเช็กภาพแล้วก็ได้แต่เหงื่อตก เพราะเมื่อครู่โดนเมินโหยวผิงยกกล้องถ่ายในระยะประชิด ไม่ทันตั้งตัว ภาพที่ปรากฏจึงเป็นภาพซูมใบหน้าตัวผมเอง กำลังทำสีหน้าเป๋อเหลอ ดูไม่จืดจริงๆ

"อันที่จริงนายแบบในภาพเป็นคนหน้าตาไม่เลว นายถ่ายภาพเขาออกมาเป็นแบบนี้ได้ แปลว่าฝีมือนายห่วยมาก" เมินโหยวผิงไม่ตอบ ผมจึงพูดต่อ "ฉันจะสอนนายถ่ายรูป ตอนไปเที่ยวด้วยกันคราวหน้าฉันจะได้มีภาพตัวเองบ้าง"

เมินโหยวผิงไม่ปฏิเสธแปลว่าเขาอนุญาต (หรืออย่างน้อยก็อนุญาตผมคนเดียว ในฐานะสิ่งเกี่ยวโยงเดียวของเขาต่อโลกใบนี้ ผมก็ควรมีสิทธิพิเศษสักอย่างสองอย่างบ้างล่ะ) ผมสอนเขาถึงวิธีจับกล้อง ระยะโฟกัส หน้าชัดหลังเบลอ การใช้รูวัดแสง วิธีเล็งคอมโพสสิ่งที่ถ่าย พูดจนเมื่อยปากอยู่ครึ่งวัน ภาพที่เขาถ่ายก็ยังออกมาพิลึกจนผมสงสารกล้องตัวเอง

"พอเถอะ ฉันยอมแพ้แล้ว อีกประเดี๋ยวแดดจะหมดซะก่อน นายไปยืนเหม่อเฉยๆ ตรงโน้นเลยไป"

ผมยกกล้องขึ้นถ่ายต่อ เร่งแข่งเวลากับแสงอาทิตย์ เมินโหยวผิงที่ปรากฏในวิวไฟน์เดอร์ดันยิ้มกว้างแข่งกับพระอาทิตย์ด้านบนซะได้





+++

END
20/08/2015 




#dmbjdaily : 七夕节 (เทศกาลวันที่ 7 เดือน 7)
ไม่มีเดลี่แล้ว แง 55555 หัวข้อย้อนหลังมันมีอันนี้มั้ยนะ เดี๋ยวกลับไปคุ้ยก่อนจะทำเนียนๆ แก้หัวข้อยัดไป /ถุย!



Talk Time:


ความจริงธีม Qixi มันต้องท้องฟ้ากลางคืนของคู่รัก แต่พวกเขาพบกันแล้ว ดังนั้นกลางวันก็ยังเจอกันได้...แต่ไม่ใช่เหตุผลที่แปะฟิคนี้ค่ะ 5555555555

จริงๆ คืออยากแปะฟิคฉลอง Qixi แต่ไม่มีเวลาแล้ว เลยเอาอันที่เพิ่งแต่งวันก่อนแปะไปก่อน *ร้องห้าย* มันก็พอจะแถได้อยู่น่า...แถได้สิ...

ด้านบนเป็นฟิคที่แต่งขึ้นเพราะภาพถ่ายเมื่อ 817 (วันที่ 17 เดือน 8) ที่ทีมนักแสดงละครเวทีของเต้ามู่ฯ (แน่นอนว่าเป็นละครเวทีที่จัดในจีนแผ่นดินใหญ่ค่ะ) ยกพลไปจัดการแสดงรอบพิเศษที่ฉางไป๋ซานตั้งแต่วันที่ 15 - 16/08/2015 (จริงๆ จัดที่เมืองฉางชุน ใกล้ๆ ฉางไป๋ซาน ติดตามข้อมูลได้ในทวิตของ @dmbjdaily)

พอแสดงเสร็จนักแสดงทั้งกลุ่มก็ยกทีมกันขึ้นเขาฉางไป๋ซานด้วย

เห็นสต๊าฟ dmbjdaily บอกว่าทาง Sony เป็นสปอนเซอร์ให้ซูหัง (คนเล่นบทเสี่ยวเกอ) กับตู้กวงอี (คนเล่นบทอู๋เสีย) เอากล้องไปถ่ายวิวบนเขาด้วย สองคนนี้ก็เลือกกล้องไปคนละรุ่นกัน

ผลออกมาคือภาพจากกล้องของตู้กวงอีสวยมาก แต่ภาพจากกล้องของซูหังนั้น... 55555555+

ทีมกาวบุไต (บุไต = ย่อจากศัพท์ญี่ปุ่นคำว่า ละครเวที/Stage play) ในทวิตเตอร์ก็เลยออกมาแซวกันเรื่องอู๋เสียเวอร์ชั่นอาจารย์กวนเกินจะจับเสี่ยวเกอหัดใช้กล้องถ่ายรูป

ไปๆ มาๆ เราก็โดนกาวป้ายด้วย ...ก็เลยกลายเป็นฟิคนี้ เพราะซูหังพกปลาหมึกไปถ่ายรูปด้วยค่ะ (มันเกี่ยวข้องกันตรงไหนยังไงวะ 555555555555)


ปล. งานเต้ามู่โอนลี่ 16/08/2015 ของประเทศเรา เลื่อนไปเป็นวันเสาร์ที่ 22/08/2015 นะคะ 

อย่าไปผิดวันนะคะ ; v ;




แบบหนังสือเป็น #ทีมอู๋เสีย, แต่บุไตเป็น #ทีมซูหัง
ด้วง L.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น