วันเสาร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2558

[Daomu Fan-fiction][AU Bride] 11: ราวกับเรื่องโกหก



 "011. ราวกับเรื่องโกหก"

 


Daomu Biji (Grave Robbers’ Chronicles) AU Fan-fiction
Pairing: 瓶邪 ผิงเสีย (เมินโหยวผิงxอู๋เสีย)


**Warning: แฟนฟิคเรื่องนี้เป็นนิยาย AU (โลกสมมติ) นะคะ**



เช้าวันต่อมา อู๋เสียตื่นขึ้นอย่างเข้าใจลึกซึ้งถึงความหมายของคำกล่าว 'ยิ่งสบายกายยิ่งไม่สบายใจ'

เหตุการณ์มีอยู่ว่า เพราะทั้งสองจำเป็นต้องนอนร่วมห้องกัน หากผู้ชายตัวโตเช่นเขาปล่อยให้เด็กผู้หญิงนอนบนพื้นก็ออกจะโหดเหี้ยมเกินไปหน่อย แต่จะให้เสียสละตัวเองไปนอนพื้นก็ไม่ได้ ร่างกายแสนอ่อนแอของเขามีหวังจับไข้ป่วยตายในไม่กี่วันแน่นอน

ดังนั้นอู๋เสียจึงทำตัวไม่รู้ไม่ชี้ สะกดจิตตัวเองว่าอีกฝ่ายไม่ใช่คน แถมยังเป็นแค่เด็กผู้หญิง นอนร่วมเตียงกันไปก็ไม่เกิดปัญหาอะไร ยังไม่นับว่าอีกหน่อยก็ต้องแต่งงานกันอยู่แล้วด้วย (...ถ้านางยอม!)

อู๋เสียเผลอหลับไปตอนไหนยังไม่รู้ตัว พอไม่มีสติคอยคุม ร่างกายก็เริ่มกระทำการอุกอาจ กอดก่ายมือเท้าบุคคลร่วมเตียงประหนึ่งหมอนข้าง หลับสบายแบบที่ไม่เคยมานาน ตื่นอย่างกระปรี้กระเปร่า สดชื่นแจ่มใส ...จนกระทั่งเห็นว่าตนนอนกอดอะไรอยู่

เสี่ยวผิงที่ตื่นก่อนกำลังมองเขาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ตั้งแต่เช้า คุณชายน้อยปล่อยร่างในอ้อมกอดด้วยความกระอักกระอ่วน เอ่ยคำขอโทษ แต่เสี่ยวผิงก็ยังคงเป็นเสี่ยวผิงผู้เงียบงัน นางแค่เอียงคอมองเล็กน้อยแล้วส่ายหน้า

หมายความว่า ‘ไม่เป็นไร’ กระมัง เขาได้แต่เดา

พวกสาวใช้ได้ยินเสียงเจ้านายตื่นแล้ว จึงเข้ามาจัดการเก็บอ่างอาบน้ำเย็นชืด และนำกะละมังน้ำอุ่นสำหรับล้างหน้ามาสับเปลี่ยนกับอันเก่า เมื่อคืนก่อนจะนอน เขาจัดการปล่อยม่านให้ตกลงมาปิดบังรอบเตียงไว้ พวกนางจึงยังไม่เห็นแขกตัวน้อย

รอจนรอบเรือนไม่เหลือใครแล้ว อู๋เสียถึงค่อยรวบม่านเก็บแล้วอุ้มเสี่ยวผิงไปล้างหน้าบ้วนปากด้วยกัน ระหว่างเช็ดหน้าให้เสี่ยวผิงผู้ยังไม่ชินกับการใช้มือเท้ามนุษย์ อู๋เสียก็รู้สึกแปลกพิกล เมื่อคืนเพิ่งคิดว่านางเป็นน้องสาว บัดนี้กลับรู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นบิดาแทน เช่นนี้แล้วไม่ใช่เช้าถัดไปเขาจะรู้สึกเหมือนเป็นบรรพบุรุษนางหรอกนะ

อู๋เสียอยากรีบไปถามความจากท่านปู่เต็มทน เขายืนจ้องเสี่ยวผิง พักหนึ่งก็ตัดสินใจอุ้มนางไปห้องโถงของเรือนหลัก ป่านนี้ทุกคนคงเริ่มมื้อเช้าไปได้ครึ่งทางแล้ว ดีเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องถามสืบย้อนไปมา เพราะฟังจากที่นางเล่า ทุกคนในครอบครัวล้วนรู้เรื่องนี้ทั้งนั้น เว้นเพียงเจ้าตัวแกนกลางของเรื่อง ซึ่งก็คือเขาผู้เดียว

ตลอดทางที่เดิน เขารู้สึกได้ถึงสายตาสงสัยของบ่าวไพร่ ทว่าแต่ไหนแต่ไร คุณชายน้อยก็ไม่ใช่คนชอบพูดจาเล่นหัวกับบ่าวในเรือน ทุกคนจึงได้แต่แสดงสายตาอยากรู้อยากเห็นอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ ไม่มีใครขวัญกล้าพอจะกระโดดขวางทางแล้วเขย่าคอเสื้อถามความเป็นมา

“คุณชาย คราวนี้ของที่ท่านเก็บกลับบ้าน ดูแล้วมีวิวัฒนาการแบบก้าวกระโดดเลยนะขอรับ” ...ยกเว้นบ่าวคนสนิทปากไร้กาละเทศะผู้หนึ่ง

“หุบปาก หวังเหมิง ตอนนี้ทุกคนอยู่ในห้องโถงเล็กใช่มั้ย”

“...”

“ข้าหมายถึงหุบปากในเรื่องที่เจ้าพูดประโยคแรก แต่ยังควรอ้าปากตอบคำถามที่ข้าถาม!”

“อ้าว...อะแฮ่ม ตอนเดินผ่านครั้งแรก ข้าเห็นแค่คุณชายรองขอรับ แต่ตอนนี้ท่านคงต้องเสี่ยงเดินไปดูเอง อาจจะมีคนเพิ่มหรือลดลง ข้าก็ยืนยันไม่ได้”

อู๋เสียหันไปมองหนึ่งที ในสายตานั้นยังแฝงถ้อยคำลึกซึ้งไว้ ‘ขืนเจ้าพูดจายั่วโมโหข้าอีกคำ ข้าจะส่งเจ้าไปโกยขี้หมาในเรือนเพาะเลี้ยง’ หวังเหมิงผู้เคยโดนลงโทษมาแล้วหลายรอบจึงรูดซิปปากสนิททันที

หนุ่มน้อยผู้นี้ เป็นมนุษย์คนแรกที่อู๋เสียเก็บกลับมาเลี้ยง เพราะโตมาด้วยกันนับสิบปี จึงไม่ค่อยมีความยำเกรงให้ผู้เป็นนายมากเท่าบ่าวคนอื่น หากนับแค่เรื่องความจงรักภักดีอย่างเดียว อู๋เสียสามารถเชื่อใจบ่าวผู้นี้ได้ทุกอย่าง แต่หากนับเรื่องอื่นด้วย...เขาก็รู้สึกเสียดายค่าข้าวอยู่บ้างเล็กน้อย

พอได้ยินว่ามีแค่อาคนรอง อู๋เสียก็เกิดอาการลังเล ท่านอารองมิใช่คนขี้โมโหแบบท่านอาสาม แต่กลับให้ความรู้สึกน่ากลัวกว่ากันหลายเท่า ตอนนี้ท่านปู่วางมือแล้ว เรื่องสำคัญในบ้านล้วนให้ท่านอารองจัดการ ปัญหาการแต่งงานและการสืบเชื้อสายทายาทสกุลอู๋ ก็คงนับว่าอยู่ในขอบข่ายหน้าที่ของท่านอารองด้วยกระมัง

ในเมื่อช้าเร็วก็ต้องคุยเรื่องนี้ ไม่สู้กลั้นใจยอมตายในดาบเดียว จังหวะเท้าที่เคยลังเลจึงเปลี่ยนกลับไปมั่นคงเหมือนเดิม

โถงเล็กมักเปิดประตูทิ้งไว้ตลอดวัน อู๋เสียก้าวเข้าไป เจอบัณฑิตหนุ่มผู้หนึ่งนั่งกินข้าวเช้าเพียงลำพัง ตำแหน่งใกล้ๆ บนโต๊ะยังเหลือข้าวเปล่าสองถ้วย กับข้าวห้าอย่าง อู๋เสียรู้สึกเหมือนโดนกดดัน รู้ตัวทันทีว่าอารองของตนเตรียมห้องโถงว่างนี้เพื่อคุยกับเขาโดยเฉพาะ ทั้งยังรู้ว่าเช้านี้มีแขกเพิ่มมาอีกผู้หนึ่ง ท่าทางชะตากรรมเขาคงยากจะเปลี่ยนแปลงแล้ว

“เมื่อคืนเป็นยังไงบ้าง” อยู่ๆ อู๋เอ้อร์ไป๋ก็พูดโพล่งขึ้นมา ไม่มีหัวไม่มีท้าย

อู๋เสียลอบขมวดคิ้ว นึกสงสัยว่าคำถามนี้สำหรับตนหรือเด็กน้อยที่ตนอุ้ม สุดท้ายตัดสินใจไม่ถูก เลือกตอบไปแบบกลางๆ “นอนหลับสบายดี ไม่มีปัญหาอะไรขอรับ” เขาตอบพลางเลื่อนเก้าอี้ให้เด็กน้อยนั่งข้างตน แล้วดึงเก้าอี้มานั่งเองอีกตัว เป็นตำแหน่งที่ชามข้าววางไว้ ซึ่งคือตรงข้ามอู๋เอ้อร์ไป๋

ผู้เป็นอาใช้สายตาคมกริบจ้องหลานชายตน หันไปมองเด็กน้อยด้านข้างเพียงชั่วครู่ ก่อนย้ายสายตากลับไปที่อู๋เสียเช่นเดิม “หลานคงรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว” เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ ทว่าคนฟังกลับหนาวยะเยือก

ประโยคนี้ โดยตัวมันเองนั้นเรียบง่าย ทว่าความหมายแฝงลึกซึ้งเหลือคณา ประโยคเดียวจากอารองของตน ทำให้อู๋เสียตระหนักรู้ได้หลายอย่าง อารองผู้นี้คิดอะไรซับซ้อน แผนการลึกสุดหยั่ง คนเช่นนี้ไม่ถามเขาว่ารู้อะไรมาบ้าง แต่กลับชิงบอกว่าเขาคงรู้เรื่องหมดแล้ว หมายความว่าอู๋เอ้อร์ไป๋เชื่อถือในตัวเด็กน้อยจำแลงผู้นี้มาก

อู๋เสียเห็นอารองของตนมาตั้งแต่เกิด บนโลกใบนี้ หากจะควานหาคนเข้าใจอู๋เอ้อร์ไป๋ได้ก็นับว่ายาก แต่หาคนที่อู๋เอ้อร์ไป๋เชื่อถือและเชื่อใจได้นั้นยากยิ่งกว่า เจ้ากิเลนเสี่ยวผิงนี่ไม่ใช่ธรรมดาเสียแล้ว

“ข้ายังอยากได้คำยืนยันจากปากท่านอีกที เมื่อวานข้าสติไม่ค่อยอยู่กับตัว อาจเข้าใจผิดหรือฟังตกหล่นตรงไหนไปก็ได้” อู๋เสียปั้นสีหน้าน่าสงสาร น้ำเสียงอ้อนวอนอารองของตนสุดชีวิต อู๋เสียเป็นหลานชายคนเดียว โตมาท่ามกลางการอุ้มโอ๋ของผู้ใหญ่รอบตัว นี่เป็นความสามารถพิเศษของเขาและเขาก็ไม่ละอายสักนิดถ้าต้องใช้มันเพื่อสิ่งที่ต้องการ

“เดิมทีอาก็ไม่อยากเล่าจนกว่าจะถึงวินาทีสุดท้าย พวกเราอยากให้หลานโตขึ้นอย่างเป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องกังวลกับอนาคตที่ยังมาไม่ถึง”

อู๋เอ้อร์ไป๋ถอนหายใจ ก่อนเริ่มเล่าเรื่องขึ้นจากฝั่งของบ้านสกุลอู๋ เนื้อหาโดยรวมแล้วแทบเหมือนสิ่งที่กิเลนพูดทุกประการ ชนิดคำต่อคำ ประโยคต่อประโยค ราวกับท่องมาจากกระดาษแผ่นเดียวกันไม่มีผิด หากไม่ใช่เพราะอู๋เสียเห็นเจ้ากิเลนกลายร่างเป็นมนุษย์ด้วยตาตนเอง เขาจะต้องนึกว่านี่เป็นเรื่องตลกสำหรับยัดเยียดคู่หมั้นคลุมถุงชนแน่

“ยังไงเจ้าสาวก็ไม่มีทางเปลี่ยนตัว หลานต้องแต่งงานกับเขา”

“...เขา?”

อู๋เสียหันไปมองเด็กน้อยข้างตัวแล้วร้องอ้อในใจ ตอนนี้เสี่ยวผิงอยู่ในชุดสมัยเด็กของเขาเอง รวบผมเป็นหางม้าแล้วเกล้ารัดด้วยห่วงทองอันเล็ก มองยังไงก็เหมือนคุณชายตัวน้อย ทว่าดีที่ตอนนี้คุณหนูบ้านต่างๆ รับความนิยมแปลกๆ มาจากเมืองหลวง มักแต่งกายเป็นชายออกไปขี่ม้านอกเมืองหรือเดินเล่นในตลาด ตลอดทางที่เดินมา บ่าวทุกคนจึงได้แต่สงสัย อยากรู้ไม่อยากถาม กลัวรับความจริงไม่ไหว

หลังฟังจบ รู้ว่าตนไม่มีทางแก้ไขอะไรได้อีกแล้ว อู๋เสียจึงปลงตก ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่แล้วกินข้าวสลับกับป้อนข้าวให้เด็กน้อยข้างตัว อู๋เอ้อร์ไป๋เริ่มมื้อเช้าก่อนนานแล้ว จึงจบมื้ออาหารส่วนของเขา ก่อนไปยังไม่ลืมกำชับหลานชายคนเดียว พร้อมกับวางเงินก้อนหนึ่งถุงและตั๋วแลกเงินอีกหลายใบ

“ดูแลเขาให้ดี อะไรขาดเหลือก็ซื้อให้เรียบร้อย ห้ามให้เขาโดนน้ำ ห้ามกินอาหารหลังพระอาทิตย์ตก และห้ามให้เขากินเนื้อสัตว์เด็ดขาด” เมื่อเห็นอู๋เสียทำหน้าหวาดผวา หันไปมองคู่หมั้นตนด้วยสีหน้าสะพรึงกลัวเล็กน้อย อู๋เอ้อร์ไป๋จึงกระแอมออกมาเบาๆ พูดออกมาเพียง “...เจ้าเชื่อข้ารึ?” ก่อนเอามือไพล่หลัง เดินออกจากห้องไปโดยไม่อธิบายอะไรเพิ่ม

อู๋เสียจ้องเสี่ยวผิงที่กำลังทำสีหน้าไร้อารมณ์ใส่เขา ถามนางว่า “เขาล้อเล่นจริงๆใช่มั้ย”

“...เอาที่เจ้าสบายใจ” นางตอบ พลางจับจ้องน่องไก่ตุ๋นน้ำแดงบนโต๊ะด้วยสายตาแปลกประหลาดยิ่ง!





+++

TBC

06/06/2015




Talk Time:

แง จะเดดไลน์แล้วค่ะ ฟิคยังไม่ถึงไหนเลย.. *กัดเล็บกึกๆ มองเลข 15 บนปฏิทิน*

เอาเป็นว่าจะพยายามแต่งให้จบก่อน แล้วค่อยรีไรต์ทีเดียวนะคะ 5555 แง หมดสต๊อกแล้ว

ปล. ทุกคนอย่าลืมไปฟังเพลงเต้ามู่ที่ อฟช จีนปล่อยมา เนื้อเพลงก็มีคุณแป้งแปลเวอร์ชั่นแฮ่กๆ ไว้แล้ว อย่าลืมไปตามหา ส่วนคุณ บ. ก็แปลเวอร์ชั่นแมนๆ เตะบอล ไว้รับหน้าผู้ชายแล้ว แฟนดอมอุดมสมบูรณ์ยิ่งนัก อยากนอนอืดเสพกาวไปวันๆ จังเลย โฮ


ความโรแมนติกในวงการเพาะเชื้อและเห็ดรา
ด้วง L.

3 ความคิดเห็น:

  1. เห็ดที่ผ่านทางมา13 มิถุนายน 2558 เวลา 04:32

    ความโรแมนติกในวงการเพาะเชื้อและเห็ดรา <<พ่นกาวใส่นาย แงงงงง

    แอบเห็นบนทล.แว่บๆว่าอัพแล้ว แต่ยังไม่ได้เข้ามาส่องซะที กาวทีเดียวสองตอนรวด วรั้ยยยยยยย อมมมมม

    ฮือๆๆ ทำไมอารองเอยูนี้ดูสมยอม(?)นักล่ะคะ ไม่มีคัดค้านให้บ้านแตกกันไปข้างมั่ง /แค่กๆ คุณชายก็เทียนเจินเหลือเกิน ไหนจะอาบน้ำทั้งอุ้มทั้งกอดกันทั้งคืนยังไม่รู้ตัวอีกว่ากำลังเผชิญกับอะไร แงงงงงง รอติดตามนะคะ ขอเส้นรวมเล่มไว้ 1 เล่มเลย!

    ยังคงยืนยันว่าฟิคนี้เป็นแนวสยองขวัญฟฟฟฟ /กัดเล็บกึกๆตาม

    ตอบลบ
  2. หวังเหมิงแบบ แงงงง 5555555 ชอบ อยากตีตูด 555555 หวังเหมิงที่เยอรมันมาก *แค่ก*

    ชอบๆๆๆๆๆๆ แงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง รออ่านตัวเต็มนะคะ ♥ สนุก

    ตอบลบ
  3. เพิ่งเมากาวค่ะ ตามหาจนเจอ เย้!!!!!
    มีฟิคดีๆให้อ่านแล้ว สนุกมากกกกกกก
    ภาษาสวยมากด้วย ชอบ!!!!
    รอตอนต่อไปอย่างใจจดจ่อ^^

    ตอบลบ