วันพฤหัสบดีที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2557

[Daomu One-shot][瓶邪] Bind 2

 

"Bind 2"

 

Daomu Biji (Grave Robbers’ Chronicles) One-shot Fan-fiction
Pairing: 瓶邪 ผิงเสีย (เมินโหยวผิงxอู๋เสีย)


**Super Spoiler Warning**

**มีเนื้อหา Spoiler เล่ม 10 ด้วยนะคะ อย่าลืมอ่านเล่ม 10 ก่อนน้าาา**




บนโลกใบนี้ แรกเริ่มทุกคนต่างมีด้ายอยู่ในมือคนละสองเส้น 

ภายในเวลาไม่นานด้ายเหล่านั้นจะเริ่มเยอะขึ้น ทีละเส้น ทีละเส้น เจ้าให้ข้าหนึ่ง ข้าให้เจ้ากลับไปหนึ่ง เมื่อรู้ตัวอีกที คนหนึ่งคนกลับมีด้ายในมือเยอะเกินไป พัวพันยุ่งเหยิง แต่ละเส้นปัดป่ายถักทอจนเป็นตาข่าย มัดคนผู้นั้นไว้ภายใต้ปมด้ายนับไม่ถ้วน

เขาไม่รู้ว่าแท้จริงแต่ละคนมีเส้นด้ายจำนวนเท่าไรกันแน่ 

สิ่งเดียวที่รู้คือ ในสองมือเขา พวกมันว่างเปล่า



ไม่มีอดีต ไม่มีอนาคต มีเพียงเรื่องอันสมควรทำ ตัวเขาเป็นเพียงก้อนหินเล็กๆ ในสายธารที่ชื่อประวัติศาสตร์ ทำเพียงเรื่องอันสมควร หลีกเลี่ยงเรื่องเสียแรงเปล่า ทุกอย่างมุ่งไปสู่หน้าที่เดียวเท่านั้น

'จางฉี่หลิงมีตัวตนเพื่อปกป้องสิ่งหนึ่ง' เขาเคยได้ยินบางคนพูดเช่นนี้

เขาเกิดมาไร้ตัวตน จากนั้นจึงถูกเรียกว่าจางฉี่หลิง แม้เริ่มต้นจากไม่ใช่ชื่อ สุดท้ายก็กลายเป็นชื่อของเขา ทว่าชื่อนี้เปรียบเสมือนคำสาป นับแต่วันที่เขาเป็นจางฉี่หลิง ชีวิตของเขาก็กลายเป็นของชื่อนี้ และจะเป็นเช่นนั้นตราบวันสุดท้ายของลมหายใจ

จางฉี่หลิงไม่มีความผูกพัน สิ่งที่เขาต้องทำมีเพียงหน้าที่เดียวคือปกป้องสิ่งหนึ่ง และเพื่อการนั้น เขาจึงได้รับโอกาสให้ปกป้องคนอีกมากมาย

เขาเคยปกป้องคนไว้มาก หาได้ทำเพราะจิตกุศลหรือจิตเมตตา แค่ทำสิ่งที่สมควรทำ ไม่คาดหวังว่าจะได้รับสิ่งใดตอบแทน

ตลอดมาเขาเป็นฝ่ายปกป้อง สำเร็จบ้าง ไม่สำเร็จบ้าง กระนั้น... คนที่เขาปกป้องกลับทยอยตายไปในที่สุด ทั้งจากอุบัติเหตุ จากโรคภัย และจากอายุขัย ไม่ว่าจะช่วยไว้กี่คน ท้ายสุดคนเหล่านั้นก็ต้องตายสักวัน



ผ่านมาเนิ่นนานแล้วนับแต่วันที่เขาเกิดเป็นจางฉี่หลิง ได้พบผู้คนมากมาย เดินผ่านซากศพมากมาย สองมือเขายังคงว่างเปล่า ไม่มีแม้ด้ายสักเส้น



เดินทางผ่านหุบเขา สายน้ำ ลำธาร แสงจันทร์และอาทิตย์นับหมื่นนับพันวัน วันหนึ่ง เขาก้มมองมือตัวเอง กลับพบด้ายหนึ่งเส้น เขาไม่เข้าใจว่ามันมาจากไหนหรือเมื่อใด จึงเริ่มมองตามเส้นด้ายที่พัวพันยุ่งเหยิงในกำมือ

มันร้อยพันนิ้วทั้งห้า เลื้อยรัดแขนทั้งข้าง ทิ้งปมยุ่งเหยิงไปทั่วร่างกาย ไม่ละเว้นแม้ลำคอ ลามไปถึงขา
แล้วทิ้งปลายลากยาวหายไปเบื้องหลัง

เขาจึงเดินย้อนทางตามเส้นด้ายไป ทบทวนเรื่องราวที่เส้นด้ายแต่ละช่วงนำพา



ตลอดชีวิตการเดินทางของเขา พบพานและลาจากผู้คนมากมาย เขาไม่ค่อยพูด ผู้คนจึงเรียนรู้ที่จะไม่พูดกับเขาเกินความจำเป็น เขาไม่สนใจผู้คน จึงไม่มีใครติดต่อกับเขาเกินความจำเป็น ในบรรดาคนทั้งหมดที่เคยพบ มีอยู่ผู้หนึ่งที่เหมือนได้เรียนรู้แต่ก็เหมือนไม่เคยเรียนรู้สิ่งใด

อู๋เสีย

เวลาไม่ถึงสามปี กลับเกิดอะไรขึ้นมากมาย เดิมทีเขามีปัญหาด้านความทรงจำ แต่ช่วงเวลาไม่ถึงสามปีนี้กลับแจ่มชัดเกินไป ถึงอยากลืมก็ลืมไม่ได้ทั้งหมด และในทุกความทรงจำที่ลืมไม่ลง มีคนผู้หนึ่งอยู่ในนั้น

อู๋เสีย

แรกเริ่มเดิมที เขาไม่คิดว่าจะต้องข้องเกี่ยวกับคนผู้นี้เกินกว่าหนึ่งครั้ง เพราะในบรรดาคนที่เขาเคยร่วม 'งาน' สมาชิกในกลุ่มมักเป็นโจรขโมยมืออาชีพหรืออย่างน้อยก็มีประสบการณ์การฝึกอยู่พักใหญ่เพื่อป้องกันการสูญเสียสมาชิก

เมื่อสามปีก่อน ตอนเห็นสมาชิกทีมของงานคว่ำกรวยหนนั้น เขารู้ทันทีว่ามีอยู่หนึ่งคนที่ต้องคอยดูแลเป็นพิเศษ

มือใหม่นอกวงการ คนที่ไม่รู้อะไรเลย ตัวถ่วงของทีม

ไม่คาดคิดแม้แต่น้อย ชายหนุ่มคนนั้นดวงแข็งเป็นพิเศษ ไม่เพียงรอดจากเหตุการณ์ร้ายแรงหนแรก หลังจากนั้นไม่ถึงเดือนยังกล้าเดินเข้าสุสานเองอีกรอบเสียด้วย เหตุบังเอิญที่ทะเลซีซานั่นคือครั้งที่สอง เขาไม่รู้ตัวสักนิดว่าด้ายเส้นนี้เริ่มพันรอบตัวเขาแล้ว หลังจากนั้นไม่นานก็มีครั้งที่สาม สี่ ทุกครั้งล้วนเป็นเหตุบังเอิญ

ชายหนุ่มคนนั้นเริ่มจากการเที่ยวเล่นตามประสาคุณชายของบ้านเศรษฐี จากนั้นก็กลายเป็นเดินทางตามหาคนสำคัญ ขุดคุ้ยเรื่องราวที่ใหญ่เกินตัว ดวงตาใสซื่อนั่นค่อยๆ ถูกย้อมด้วยสีดำแบบเดียวกับที่ล้อมรอบโลกของเขาไว้

ไม่ว่าจะออกห่างสักกี่หน เขาและชายหนุ่มคนนั้นจะกลับมาเจอกันด้วยเหตุบังเอิญเสมอ

...เว้นครั้งสุดท้าย...

การพบกันหนที่ห้า เขาเป็นฝ่ายโดนค้นพบ ไม่ได้เป็นเพียงเหตุบังเอิญเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา

คนแปลกหน้าคนหนึ่ง ช่วยคนเดือดร้อนตรงหน้า เป็นเรื่องเข้าใจได้ แต่จะให้คนแปลกหน้าคนหนึ่ง ออกเดินทางและประสบอันตรายแทบแลกชีวิตเพื่อคนแปลกหน้าอีกคน ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย



ชายหนุ่มใสซื่อบริสุทธิ์คนนั้น แม้ถูกย้อมด้วยสีดำของความแปดเปื้อน ก็ยังคงใช้ดวงตาที่ใสกระจ่างคู่เดิมจ้องมองโลก พูดสิ่งที่ดีงาม และกระทำทุกเรื่องด้วยหัวใจอ่อนโยน

เขาไม่เคยบอกไป...คำพูดที่ได้ยินข้างกองไฟวันนั้นสำคัญกับเขาเพียงใด

เขามั่นใจ...คนแบบชายหนุ่มคนนั้นเมื่อสงสัยอะไร ไม่มีทางหยุดแค่ 'รู้ผิวเผิน' แน่นอน

เขาเชื่อ...ว่าตนเองได้ครอบครองสถานที่ไม่เล็กเลยในหัวใจของอีกฝ่าย สถานที่ซึ่งจะคงอยู่ตลอดไปตราบเท่าชีวิตเจ้าของ

เขารู้...ชายหนุ่มคนนั้นเข้าใจนิสัยของเขาดีและเชื่อในคำพูดของเขาแค่ไหน

ดังนั้น...เขาจึงตั้งใจจะเก็บด้ายเส้นนี้ไว้ให้นาน นานเท่าเวลาที่เขามี ด้วยการพบกันอีกหนที่ไม่ใช่เหตุบังเอิญ



"ฉันมาบอกลา เวลาของฉันมาถึงแล้ว"



เขายอมแลกเวลาสิบปีของจางฉี่หลิงเพื่อปกป้องอู๋เสีย ใช้พวกมันเป็นเส้นด้าย...รัดพันหัวใจใสซื่อบริสุทธิ์นั้นไว้...ไม่ให้ลืมเขา...แม้เพียงแค่วันเดียวก็ตาม





+++

END
23/10/2014






Talk Time:

...เอ๊ะ...

ตอนแรกตั้งใจจะแต่งฟิคที่พูดถึงความรู้สึกเต็มๆ ของเสี่ยวเกอบ้างค่ะ พี่ท่านเล่นพูดนับประโยคได้ เลยแทบหาประโยคพูดยัดใส่ฟิคไม่เจอ ....แต่...ทำไมออกมาเหมือนจะจบท้ายด้วยความยันเดเระล่ะ!? *ร้องไห้*

ที่จริงเริ่มจากความสงสัยเล็กๆ น่ะค่ะ ตลอด 10 เล่มบันทึกจอมโจรแห่งสุสานของไทยเนี่ย นายน้อยแสดงออกชัดเจนมากว่ารู้สึกยังไง แต่พ่อหน้านิ่งเมินโหยวผิง... จากแกรี่สตู *แค่ก* จากคนแปลกหน้าสุดเก่งแสนเท่ที่เจอกันบ่อยๆ ตอนลงกรวยขุดดิน อ่านไปอ่านมา รู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นเพื่อนร้ากกกของอู๋เสียไปแล้ว พวกนายไปวาร์ปความสัมพันธ์กันตอนไหนคะ!?

คิดไปคิดมา ก็เจอแค่ตอนกองไฟในเล่ม 4 (อีกแล้ว) 55555

ถึงจะรู้มาบ้างนิดหน่อยแล้วตอนบินชนสปอยล์ระหว่างขุดอุโมงค์จีน แต่พออ่านในเล่ม 10 เนี่ย... ประโยคนั้นมันก๊าววววว แงงง คำว่า "นาย" ในหน้านั้น เขียนสั้นๆ แต่ความหมายยิ่งใหญ่ ซ่อนความรักของเสี่ยวเกอไว้มากมาย แอร๊ อ่านถึงคำนั้น โมเม้งในทุกเล่มที่ผ่านมาผุดขึ้นในหัวเต็มเลยค่ะ โฮฮฮฮฮ นี่มันนิยายรักกกกก

จริงๆ แถวๆ ตอนนั้นมีโมเม้งอยากเอามาเล่นอีก แต่คงไปโผล่อีกทีในรวมเล่มฟิคเลย อย่าลืมหยอดกระปุกเตรียมไว้นะคะ แอร๊♥ ฟิคในเล่มมีรีไรต์แต่ไม่มีรีพริ้นต์นะเออ เพราะถ้าพิมพ์คงไปพิมพ์เล่ม 2 แทน ...เป็นทีมด้วงงบน้อยน่ะค่ะ  _:(´ཀ`」 ∠):_ แล้วเจอกันสิ้นปีค่ะ

2 ความคิดเห็น:

  1. เสี่ยวเกออออออออ นายนี่มัน
    ขำตรงวาร์ปความสัมพันธ์ นายน้อยวาร์ปหาเสี่ยวเกอวาร์ปหนี /หัวเราะทั้งน้ำตา ;w;

    ตอบลบ
  2. "เล่ม10 หน้า180 บรรทัดที่15" ประโยคพิฆาตของเสี่ยวเกอ ด้วงยกนายน้อยให้เลยค่ะ เอาไปเลย ความขัดใจ เรื่องที่งอนๆมาตลอดเข้าใจนายแล้ว วินาทีนั้นโมเม้นท์มันผุดจริงๆนะ แบบ ข่นบ้าาาาาา บันทึก(รัก)จอมโจรแห่งสุสานชัดๆ โมเม้นท์กองไฟเล่ม4 นี่มันประโยคตกกิเลนนนนนนนนนน ฟฟฟฟฟฟฟฟ


    เอาจริงด้วงก็คิดนะ ไอ้ที่ทำเป็นนิ่งทำเป็นเข้มแต่อุตส่าห์มาบอกลาเนี่ย บอกว่าตัวเองไม่มีอดีตไม่มีอนาคตเนี่ย จริงๆแล้วตัวเองไม่อยากโดนลืมชัดๆ ไหนจะผูกคำสัญญา มั่นใจใช่มั้ยล่ะว่าเขาไม่มีทางลืม ตัวไม่อยู่แต่ทิ้งของต่างหน้า นัดเวลา รัดหัวใจเทียนเจินเอาไว้สิบปี จางฉี่หลิง นายมันผู้ชายรว้ายกาจจจ TT v TT

    ตอบลบ