วันเสาร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2557

[Daomu One-shot][黑盟] Do not turn on the light

 

"Do not turn on the light"

 

Daomu Biji (Grave Robbers’ Chronicles) One-shot Fan-fiction
Pairing: 黑盟 เฮยเหมิง (เฮยเสียจื่อxหวังเหมิง)


**Spoiler Warning**




ตื่นออกจากรัง วิ่งนะวิ่งนะแฮมทาโร่~

ของอร่อยที่สุดก็คือ...เมล็ด...ทานตะวัน~♪






"...เอ่อ ใต้เท้าเฮยเสียจื่อ"

"หืม"

"ถ้าคุณจะกรุณา...ช่วยหยุดร้องเพลงสักทีได้ไหมครับ"

"เห ทำไมกัน เสียงฉันออกจะดีขนาดนี้" เขาฮัมเพลงในคอ ได้เวลาวิ่ง~ กลิ้งนะกลิ้งนะแฮมทาโร่~♪

"ทำไม..." อีกฝ่ายทวนคำ "คุณยังกล้าถามว่าทำไมอีกเหรอ หา!"

คนตะโกนนึกอยากร้องไห้ออกมาเต็มแก่ ไม่สิ อันที่จริงเขารู้สึกว่ามีน้ำตาซึมอยู่ในลูกตา มือที่กุมต้นแขนอีกฝ่ายกำแน่นจนแทบจะทึ้งชิ้นเนื้อให้หลุดออกมา

ทำไมน่ะหรือ...ก็ดูสภาพของพวกเขาสองคนตอนนี้สิ สองคนเปลือยกายอยู่บนเตียง...กำลังทำกิจกรรมที่แน่นอนว่าไม่ใช่เปลื้องผ้าจั่วไพ่ แล้วนี่อะไร เพลงแฮมทาโร่...ไม่ให้น้ำตาไหลตอนนี้จะไหลตอนไหน

"คุณอยากร้องเพลงตอนเข้าห้องน้ำ ถูบ้าน ทำกับข้าวอะไรก็ช่างเถอะ ทำไมต้องมาร้องตอนนี้ด้วย...นี่เกลียดผมจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย"

เฮยเสียจื่อจุ๊ปาก พลางหัวเราะเสียงทุ้มต่ำ "ไม่เอาน่า เหมิงเหมิง...เห็นหน้านายแล้วรู้สึกว่าควรร้องเพลงนี้น่ะสิ"

ว่าแล้วก็ร้องเพลงต่อ...

อีกฝ่ายที่ชักทนมานานรู้สึกเหลืออด หวังเหมิงเลื่อนมือปัดป่ายไปที่ข้างหัวเตียง จากนั้นก็กดไฟข้างหัวเตียงเกิดเป็นเสียงดังคลิก ห้องสว่างโร่ขึ้นมาทันตา คนที่กำลังจ้องหน้าเขาอยู่ถึงกับหรี่ตาโดยอัตโนมัติ "ทำอะไรของนาย"

"...ผมไม่ให้คุณมองแล้ว!" มองที่มืดชัดนักก็เจอไฟเสียเถอะ โคมนี้ที่จริงแล้วไม่เคยมี เพราะเจ้าของห้องคุ้นชินกับความมืด แต่เขาเป็นคนซื้อมาวางไว้เอง...ไว้เพื่อการณ์แบบนี้แหละ อันที่จริงก็ไม่รู้เหมือนกันว่าใช้ได้ไหม แต่ก็เผื่อๆ ไว้ก่อน หมอนี่ตาบอดจริงหรือเปล่าเขาก็ยังไม่รู้เลย จริงๆ อาจจะแค่มุกอำขำขันก็ได้ ใครมันจะยิ่งมืดยิ่งมองเห็นได้ดีกัน...แต่ก็นะ เจอเรื่องประหลาดมาเยอะ เจอตัวประหลาดมาแยะ อะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้นแหละ

พอห้องเปิดไฟสว่างโร่ เขาก็เริ่มรู้สึกอายขึ้นมานิดหน่อย...คนตรงหน้ายามนี้สามารถมองเห็นได้ชัดเสียยิ่งกว่าชัด ร่างที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อดูราวกับพวกรูปหล่อโบราณ เทียบกับเขาที่เห็นจะหาได้แต่พุงมากกว่ายิ่งมองก็ยิ่งเศร้า

ขณะที่หวังเหมิงกำลังนึกเสียใจนิดหน่อยที่มาทดลองอะไรแบบนี้เวลานี้ เขาก็พบว่าความเสียใจดังกล่าวช่างเป็นเรื่องอันน้อยนิดเมื่อเทียบกับความจริงที่ว่าเขากำลังอยู่บนเตียงกับผู้ชายที่ร้องเพลงการ์ตูนขณะกำลังทำกิจกรรมกัน

"ผมว่าคืนนี้เรา...แยกย้ายกันไปเหอะนะ" เขาเอ่ยเสียงหวาดๆ ขณะมองหาเสื้อผ้าที่ถูกถอดทิ้งไว้ แต่ทว่าคนที่คร่อมทับร่างกายกลับทิ้งน้ำหนักมากขึ้นราวกับจะล็อคไม่ให้เขาเคลื่อนไปไหน "สะ เสียจื่อ หนักนะ"

"โอ๊ยโหย ขอโทษที แสงมันรบกวนมากไป ตาฉันก็ไม่ค่อยดี" ฝ่ายนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงปราศจากความจริงใจ หวังเหมิงเห็นแล้วอดทำหน้าเซ็งไม่ได้ เขาโบกมือไปมาตรงหน้าอีกฝ่ายแทนการทดสอบ

"ตกลงตอนนี้คุณมองไม่เห็นจริงอะ...ยังไงก็ช่าง" เขาตัดสินใจเลิกหาความจริง "คุณลุกให้ผมเถอะ มองไม่รู้เรื่องมันลำบากใช่ไหมล่ะครับนายท่าน คืนนี้เราเลิกแล้วต่อกันเถอะนะ" ...มู้ดเขามันโดนแฮมทาโร่พังย่อยยับไปหมดแล้ว ยังเหลืออะไรให้ผู้ชายคนนี้ได้อีกกันเล่า

ตกปากยอมขึ้นเตียงกับผู้ชายคนนี้จัดอยู่ในเรื่องผิดพลาดครั้งใหญ่เรื่องหนึ่งในชีวิตเรียบๆ ง่ายๆ ของเขาดีแท้

"หืม..." เฮยเสียจื่อครางในลำคอ ดวงตาที่ปราศจากแว่นดำเช่นทุกทีทอประกายอย่างน่าประหลาด ริมฝีปากประดับด้วยรอยยิ้มที่ชวนให้ขนลุกซู่ จากนั้นก็ค่อยๆ ขยับปลายนิ้วแผ่วเบาลูบไปบนผิวกายเปลือยเปล่าของเขา สัมผัสนั้นราวกับสัตว์เลื้อยคลานเคลื่อนที่อยู่บนตัว เสียงทุ้มต่ำกระซิบผะแผ่ว "เหมิงเหมิงเด็กโง่ ไม่รู้เหรอว่าคนตาบอดน่ะ เพราะมองไม่เห็น จึงใช้มือแทนดวงตา...สัมผัส...เพื่อรับรู้ถึงสิ่งเหล่านั้น"

ไม่พูดเปล่า อีกฝ่ายลงมือ 'สัมผัส' ตามที่เอ่ยปาก ร่างเขาแทบทุกตารางนิ้วถูกปลายนิ้วที่เคลื่อนไหวได้นุ่มนวลหากแต่ทิ้งร่องรอยอันดึงดันพวกนั้นครอบครองจนหมด เสียงทุ้มพร่าเรียกชื่อเขาแผ่วเบา...

เขานึกถึงท่าทางของพวกเซียนวัตถุโบราณที่เป็นลูกค้าของที่ร้าน คนพวกนั้นสัมผัสสิ่งของ ตรวจสอบด้วยมือคู่นั้นและสายตาอันแหลมคม พลิกแล้วพลิกอีกทุกจุด นิ้วมือทั้งสิบเคลื่อนไหวแผ่วเบา นุ่มนวล คล้ายจะประคับประคอง แต่ก็แฝงไปด้วยความใคร่รู้อย่างหิวกระหาย

หวังเหมิงอดรู้สึกไม่ได้ว่าตนเองคล้ายเป็นวัตถุเหล่านั้น

"ฉันเองก็...มีมือที่ละเอียดอ่อนต่อการสัมผัสคู่หนึ่ง" เฮยเสียจื่อเอ่ยด้วยน้ำเสียงคล้ายกำลังสนุกสนานเต็มที่

"พอ ฮึก พอเถอะ" เขาหอบหายใจ พยายามรวบรวมเสียงเพื่อเปล่งออกไป

"เด็กดี..." ฝ่ายนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลอ่อนโยนจนน่าขนลุก มือที่สัมผัสผิวกายเขาค่อยๆ ขยับ เปลี่ยนเป็นแนบลงทั้งฝ่ามือบนร่างของเขา ขยับหนักๆ ราวกับจะนวดเคล้น ร่างของหวังเหมิงสั่นระริก เขาในยามนี้รู้สึกเหมือนเป็นสัตว์เล็กที่ถูกคุมคาม คล้ายถูกงูรัดไปทั่วทั้งร่างกาย ไม่ว่ามือคู่นั้นเคลื่อนผ่านจุดไหน เขาจะรู้สึกเหมือนถูกพิษ ท้ายที่สุดร่างกายก็ชาดิก ขยับไปไหนไม่ได้ เป็นได้แค่อาหารอันโอชะที่ถูกละเลียดกินอย่างอ่อนโยน

ความอ่อนโยนอันแสนโหดร้ายทำให้รู้สึกแทบสำลักออกมา

ทั้งหมดที่เกิดขึ้นยามนี้มีเพียงสองมือคู่นั้น ซึ่งเพียงเท่านี้เขาก็รู้สึกเหมือนคนจะจมน้ำอยู่รอมร่อ ทว่าไม่นานนัก อีกฝ่ายก็ค่อยๆ โน้มตัวลงมา แตะริมฝีปากซับน้ำตาให้เขา จากนั้นก็ค่อยเคลื่อนริมฝีปากไปช้าๆ คราวนี้หวังเหมิงรู้สึกได้ถึงอาการเย็นวูบไปทั่วร่าง ก่อนจะค่อยๆ สัมผัสได้ถึงคลื่นความร้อนที่ลามเลียเหมือนถูกไฟเผา...

ร่างกายบัดเดี๋ยวร้อน บัดเดี๋ยวหนาว ทุกอย่างปั่นป่วนไปหมด

...ตายแน่ งานนี้ตายแน่ๆ เขานึกอยากกรีดร้อง

ด้วยความที่ห้องสว่างไสว เขาจึงมองเห็นอีกฝ่ายได้ชัดเจน...เรียกว่าเกินไป ทุกครั้งที่เขาพยายามจะเบือนหน้าหนี ก็จะถูกเสียงกระซิบสั่งให้ 'มองฉัน' พอยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกหวาดกลัว

...อย่างน้อยถ้ามองไม่เห็นก็อาจจะดีกว่านี้ เขาพรูลมหายใจ ริมฝีปากที่เม้มแน่นถูกปลายนิ้วของอีกฝ่ายงัดออก ท้ายสุดก็ยอมปล่อยเลยตามเลย ส่งเสียงครางอย่างสิ้นหวัง

ไฟ...อย่างน้อยถ้าปิดไฟล่ะก็

ความหวังสุดท้ายของเขาคือแสงไฟ ทว่าทันทีที่พยายามจะเอื้อมมือไปปิดไฟ นิ้วกลับถูกอีกฝ่ายสอดประสานปลายนิ้วเข้ามา ล็อกมือของเขาเอาไว้ไม่ให้ไปไหน

"เสียจื่อ...ให้ผมปิดไฟเถอะ" เสียงเขาเหมือนคนจะร้องไห้...อันที่จริงก็ร้องอยู่ หมอนี่มันใจร้ายใจดำเกินไปแล้ว!

"ไม่เอาน่า นายเป็นคนเปิดเอง ก็ยอมรับผลของมันหน่อย" ว่าแล้วก็ขบปลายจมูกของเขา 

หลังจากนั้นเขาแทบไม่เป็นผู้เป็นคน ตอนนี้ให้เขียนชื่อตัวเองยังไม่แน่ว่าจะเขียนถูก สมองเลอะเลือนไปหมด แสงไฟยิ่งสว่างยิ่งน่ากลัว เขามองเห็นปลายเท้าของตนเองเคลื่อนไหวดิ้นรนคล้ายคนสิ้นหวัง...ไม่อาจสู้รบกับผู้ชายคนนี้ได้จริงๆ

หากตอนนี้เปลี่ยนเป็นใครสักคนที่ไม่ใช่เขา บางทีอาจไม่ต้องมีจุดจบน่าสังเวชเช่นนี้

โลกนี้มันต้องผิดตรงไหนสักที่แน่ๆ ถึงได้ส่งสิ่งมีชีวิตอ่อนแอแบบเขามาอยู่ในเงื้อมมือของคนแบบนี้

"คุณมันเป็นสัตว์ร้าย เป็นงูพิษชัดๆ" เขาเอ่ยด้วยเสียงเจือสะอื้น

แว่วเสียงหัวเราะในลำคอของคนที่ถาโถมร่างตนเองเข้าหาเขา

...สัตว์ร้ายที่ค่อยๆ กินอย่างอ่อนโยนน่ะนะ ...ฝ่ายนั้นก้มลงกระซิบก่อนประทับจูบบนคอของเขาที่ตัวสั่นงันงกไม่หยุด ปลายนิ้วไล้เลื้อยไปบนต้นขาของเขาที่กระหวัดเกี่ยวร่างของอีกฝ่ายเอาไว้ เป้าหมายไม่ใช่เติมเต็มท้องที่ว่างเปล่า แต่มันกำลังทรมานเหยื่ออย่างถึงที่สุด

...เพราะสนุกยังไงล่ะ

"เสีย..." เขาครางด้วยน้ำเสียงคล้ายคนสำลักน้ำ...ไม่น่าขึ้นเตียงกับหมอนี่เลย ไม่น่าเลยจริงๆ

ชู่ว์...ฝ่ายนั้นพ่นลมเบาๆ ข้างหูเขาคล้ายจะห้ามปราม จากนั้นก็กระซิบเสียงเบาหวิว "เรียก 'ฉัน' สิ"

เขาพรูลมหายใจ ดวงตาคลอไปด้วยน้ำตาพยายามจะมองคนตรงหน้าที่ดูคล้ายภาพลางเลือนในแสงสว่าง จากนั้นก็เอ่ยชื่อที่อีกฝ่ายเคยบอกเขาออกมา

สิ่งสุดท้ายที่เขามองเห็นคือรอยยิ้มพึงพอใจ ก่อนที่เขาจะจมดิ่งลงไปในสายธารของพิษร้าย เลือดทุกหยด เนื้อทุกชิ้น กระดูกทุกท่อน แม้แต่สามจิตเจ็ดวิญญาณล้วนถูกกลืนกินไปจนหมดสิ้น



บ่ายวันต่อมา หวังเหมิงแปะแผ่นประคบไว้ที่เอวและหลัง แบกเอาโคมไฟไปคืนที่ร้าน พลางสัญญากับตัวเอง เขาควรปล่อยให้อีกฝ่ายร้องเพลงไป จะแฮมทาโร่ โดราเอม่อนอะไรก็ช่าง

...แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น อย่าเปิดไฟ 




+++

END
17/10/2014







Talk Time:

OTL OTL OTL OTL ← รู้สึกอยากพิมพ์แบบนี้รัวๆ

ต้นกำเนิดตอนนี้คือตอนที่ด้วงอีกนางโยนกระทู้นี้มาให้ http://pantip.com/topic/32728435 พร้อมเสียงหัวเราะ ดูแล้วโดนสะกดจิต...รู้ตัวอีกทีก็เขียนไอ้นี่แล้วอ่า โฮ

ไม่ต่อกับฟิคก่อนหน้านะคะ แค่เกิดอยากเขียนขึ้นมาเฉยๆ รู้สึกพี่แว่นดำดูเป็นพวกกวนบาทาพอจะทำอะไรพรรค์นี้ขึ้นมาบนเตียงจริงๆ อะ

แต่เริ่มด้วยแฮมทาโร่ ทำไมจบที่มุกโรคจิตอะ โฮฮฮฮฮฮ

*ตอนนี้หลอนเพลงแฮมแฮมแล้ว อ่อก* *ฉบับภาษาจีนก็มีนะคะ ฮา* ←

"แฟนเรือเฮยเหมิงคือผิงเสียที่เสียสติไปแล้ว" --- มิตรสหายท่านหนึ่ง

...เจ็บนี้อีกนาน ← แต่เถียงได้ไหม ก็ไม่ได้ แงงงงงง




ย่อยมุก
- ชื่อจริงของพี่เฮย *สปอยล์* ไม่ใช่เฮยเสียจื่อ ไม่ได้แซ่เฮยด้วยซ้ำ แต่คุณหนานไพ่ยังไม่ได้เฉลยอะนะคะ แค่พูดๆ แบ๊ะๆ มา เพราะงั้นก็เลยเอามาเล่นแหละนะคะ
- คนจีนเรือนี้...เอ่อ แพไม้จิ้มฟันลำนี้ เวลาให้พี่เฮยเรียกหวังเหมิง (หรือเวลาเรียกด้วยความเอ็นดู) จะเรียกเหมิงเหมิง ไม่ก็เสี่ยวเหมิงเหมิง และส่วนใหญ่จะใช้ตัวเหมิง (萌) - ตัวเดียวกับโมเอะน่ะค่ะ คนละตัวกับเหมิงในหวังเหมิง (อันนั้นใช้ 盟) เป็นชื่อเล่นน่ารัก เลี้ยงสัตว์เล็กจริงๆ โฮ OTL


4 ความคิดเห็น:

  1. ตาหลกกกกก แต่เหมาะกะโมเม้งคู่นี้มาก ไอ้เพลงแฮมทาโร่ระหว่าง*ปิ๊บ*เนี่ย ต้องออกจากปากนายแว่นดำเท่านั้น แล้วพออีกคนเป็นเหมิงเหมิงที่ต่อกรไรไม่ได้มันเลยโมเอะ แงงงงง

    เปิดมาด้วยพล็อตบ้าบอ จบด้วยโมเม้นท์โรคจิต เป็นฟิคที่น่าประทับใจจริงๆค่ะ /แหย่เท้าลงไม้จิ้มฟันครึ่งตัวไปซะแล้ว(?)

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ18 ตุลาคม 2557 เวลา 14:03

    5555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555
    5555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555
    ใจร้าย ทำไมถึงทำกับเหมิงเหมิงได้ ได้แค่หกร้อยหยวนไม่คุ้มแล้วค่า

    ตอบลบ
  3. หน้ากากด้วงใส่ไปนานๆก็ถอดไม่ได้แล้วโกะ18 ตุลาคม 2557 เวลา 15:05

    แฮ่กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ดีค่ะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะ โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ ดีข่ะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะ แงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง ฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ

    ตอบลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ23 เมษายน 2565 เวลา 00:02

    ชอบอ่าาาพี่เฮยคือกวนติงสุดๆ แต่ก็แซ่บสุดๆเช่นกัล(๑♡⌓♡๑) อยากอ่านอีกจังเลยอ่าาาา

    ตอบลบ