วันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2557

[Daomu One-shot][瓶邪] Halloween

 

"Halloween" (#DMBJdaily)

 

Daomu Biji (Grave Robbers’ Chronicles) One-shot Fan-fiction
Pairing: 瓶邪 ผิงเสีย (เมินโหยวผิงxอู๋เสีย)


**Spoiler Warning**




วันนี้เป็นวันฮาโลวีน ผมไม่รู้ว่าเสี่ยวเกอจะมีความรับรู้เรื่องวันพิเศษแบบนี้ในหัวหรือไม่

โดยส่วนตัวผมไม่ใช่พวกนิยมชมชอบคอสตูมเพลย์เป็นพิเศษ ผมเคยคิดเล่นๆ แบบในหนังการ์ตูน ว่าถ้าหากมีสักวันที่เราสามคนจำต้องปลอมตัวเพื่อปฏิบัติภารกิจอย่างใดอย่างหนึ่ง คนที่เหมาะกับภารกิจแบบนั้นคงไม่พ้นยอดนักแสดงจางอย่างไม่ต้องสงสัย รองลงมาคงเป็นผม เพราะอย่างน้อยก็เคยมีประสบการณ์ปลอมตัวมาบ้าง ส่วนนายอ้วนนั้นเลิกคิดไปเลย ให้เขาลดพุงได้ก่อนค่อยว่ากัน หรือไม่ก็ควรไล่ให้เขาไปฝึกวิชาหดไขมันแทนวิชาหดกระดูกเสียก่อน

แต่เรื่องนี้แตกต่างออกไป เทศกาลฮาโลวีนของต่างชาติคือการแต่งตัวเพื่อความสนุก ล้อคลอไปกับประเพณีและแสงไฟเทศกาลอันมีมายาวนาน อันที่จริงที่หังโจวนี้ไม่ค่อยมีใครเล่นอะไรในเทศกาลนี้กัน (เว้นก็แต่เด็กๆ รุ่นใหม่ที่รับเอาวัฒนธรรมฝรั่งมาในชีวิตเยอะกว่าคนรุ่นผม) ตัวผมเองก็ไม่ค่อยจะสนใจ แต่ก็ต้องยอมรับว่ามีมากกว่าหนึ่งครั้งที่ผมเคยแอบคิดว่าเมินโหยวผิงในชุดผีจีนก็ดีเหมือนกัน...ผีจีนที่ใส่กี่เพ้าอะไรทำนองนี้

เมินโหยวผิงกับการละเล่นแต่งกายเพื่อความสนุก เป็นสิ่งที่เชื่อมโยงกันได้ยากมาก แต่คิดว่าถ้ามีเหตุผลที่ดีพอ ก็น่าลองดู

หมายมั่นปั้นมือ ผมกลับไปที่ร้าน รื้อค้นชุดกี่เพ้าสตรีที่เคยซื้อไว้ตั้งแต่ตอนคิดบ้าจะให้หวังเหมิงแต่งเพื่อเรียกลูกค้าออกมา ชุดเป็นกี่เพ้าสีน้ำเงินสด ผ้าเนื้อดี เก็บได้นานปีไม่มีเก่า อีกทั้งยังไม่เคยแกะออกจากห่อ หมอนั่นรูปร่างสูงกว่าหวังเหมิง คิดว่าใส่แล้วคงออกมาดูสั้น แต่กี่เพ้าสั้นๆ ก็ดี ไม่เป็นไร

พอกลับถึงบ้านผมก็ตรงไปหาเขา อธิบายที่มาของเทศกาลนี้สารพัดเท่าที่เปิดอ่านมาจากอินเทอร์เน็ตให้เขาฟัง เมินโหยวผิงยังคงนั่งอยู่ตรงนั้น มีสีหน้าเรียบเฉย จนเมื่อผมหยิบกี่เพ้าออกมาจากถุงเขาถึงขมวดคิ้วมองมาทางผมคล้ายไม่เข้าใจ

"...ฉันจึงอยากให้นายใส่" เว้ากันตรงๆ แบบนี้เลย

พักหลังๆ นี้เสี่ยวเกอใจดีกับผมมาก กับคนที่ออกปากว่าถ้าใครทำอะไรผม (และนายอ้วน) แม้แต่ปลายก้อย เขาถึงกับจะตามไปไล่เก็บศัตรูช้าๆ อย่างใจเย็นด้วยเวลาชีวิตที่เหลือทั้งหมดของเขา คิดว่าเรื่องแค่นี้ขอไม่ยากหรอก

ผมกระหยิ่มใจเช่นนี้ได้เพียงไม่นาน เพราะเมินโหยวผิงมองผมเพียงครู่เดียว จากนั้นก็หันไปเหม่อมองฟ้ามองหน้าต่างต่อ ไม่สนใจผมอีก

ผมอ้าปากหวอ แล้วตัดสินใจรุกใหม่ "น่า เสี่ยวเกอ เราเป็น...เพื่อน...กันทั้งที นายยอมตามฉันสักหน่อยเถอะ..."

ผมลองหาเหตุผลมาเกลี้ยกล่อมเขา หากเป็นเมื่อก่อน อะไรที่เขาตัดสินใจไปแล้วนั้นยากจะเปลี่ยนแปลง แต่ตอนนี้ผมเรียนรู้แล้วว่าตื๊อเท่านั้นที่ครองโลก จุดอ่อนของเขาคือผม อาจฟังดูน่าหมั่นไส้ แต่แม้แต่นายอ้วนยังบอกว่าถ้าจะมีใครล้อเล่นกับเมินโหยวผิงได้ คนคนนั้นจะต้องเป็นผมจึงจะมีโอกาสเสี่ยงน้อยที่สุด เรื่องนี้แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านการแกล้งคนอย่างนายแว่นดำก็ยังต้องยอมรับ

"จางอากง นายยังหนุ่มยังแน่น ฉันก็แค่อยากพานายไปหาความเกี่ยวโยงแบบแปลกๆ ใหม่ๆ บ้าง"

เขาตอบโดยไม่หันมองมา "นายใส่เองเถอะ"

"ไม่ นายต้องเป็นคนใส่ นายเท่านั้น" ผมเสียงแข็งขึ้นอีกระดับ เดินตรงไปหาเขาแล้วยื่นถุงให้

เมินโหยวผิงหันมองผม เอ่ยขึ้นว่า "นายไม่คิดว่ามันแปลกบ้างเหรอ นายบอกว่าเป็นงานเทศกาลแล้วชุดแบบนี้มันเกี่ยวอะไรด้วย"

อา จริงสิ ผมอธิบายเรื่องคอนเซปต์เทศกาลฮาโลวีนไป แต่ลืมอธิบายเครื่องแต่งกายที่จะให้เขาใส่ไปด้วย ผมจึงบอกไปว่าใส่ชุดกี่เพ้าจะได้แต่งเป็นผีสาว ส่วนหน้าตาเขาดูซีดขาวทะมึนน่ากลัวอยู่แล้ว แค่เอาผมลงหน่อยแล้วเดินโงนเงนไปตามปกติเป็นอันใช้ได้ จากนั้นก็แต่งประวัติผีสาวขึ้นมาหนึ่งเรื่อง เรื่องของผีสาวที่ยืนรอคนรักที่ท่าน้ำจนตัวตาย ระหว่างเล่าก็ทำหน้าเริงรื่นไปด้วย พยายามกล่อมเขาว่าโลกนี้มันช่างสวยงามและเทศกาลนี้จะต้องสนุกสุดๆ เป็นแน่

คนเราสามารถพูดได้ทุกอย่างเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ ข้อนี้ผมเรียนรู้ดีเสียยิ่งกว่าดีตลอดสิบปีที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นผมจึงพล่ามเป็นคุ้งเป็นแควได้สารพัดทั้งๆ ที่ไม่ได้อินเทศกาลที่ว่าขนาดนั้นเลย เอาวะ อย่างน้อยผมก็รู้ว่าเขาฟังผมอยู่ ส่วนผมก็ไม่มีอะไรจะเสีย คำขอนี้มีแต่ได้กับเสมอตัว ข้อเท็จจริงนี้ทำให้ผมดีใจเป็นอย่างยิ่ง

เมินโหยวผิงเจอลูกตื๊อของผมไปก็คล้ายเริ่มเครียด เขามองผมด้วยสายตาเหมือนจะขอบุหรี่สูบ แต่แล้วก็ไม่ได้ขอ เขามองผมอยู่อย่างนั้น พอเห็นสายตาที่คุ้นเคย ผมรู้ตัวว่าเริ่มได้การแล้ว

"แต่งแล้วจะไปที่ไหน" เขาถาม

"ยังไม่ได้คิด แต่ถ้าแต่งแล้วออกมาดูดีเกินไป ฉันจะขังไว้ดูกันเองสองคนในนี้ อย่างมากก็ถ่ายรูปเก็บนิดหน่อยไว้พอไปอวดนายอ้วน แค่นี้พอ ฉันไม่ขอมากมาย" ผมโบกมือไปมา ทำหน้าทำตามีเหตุผลถึงที่สุด เมินโหยวผิงเป็นเป้าสายตาเกินไป ออกไปข้างนอกก็คงวุ่นวายแน่ๆ โดยพื้นฐานผมก็แค่อยากเห็นเขาแต่งกี่เพ้านั่นแหละ เพราะฉะนั้นจะไปที่ไหนก็ไม่สำคัญ

เขายังคงมองผม มีสีหน้าลำบากใจ แต่ในที่สุดก็พยักหน้า ผมกำมือร้องเยสในใจ รีบคว้ากล้องดิจิตอลเดินตามเขาไปด้วย

"แต่ต้องไปแต่งในห้อง" เขาบอกผมพลางชี้ไปทางห้องนอน ชั่วขณะหนึ่งผมรู้สึกเหมือนเรากลับไปตะลุยสุสานกันอีกครั้ง ท่าทางชี้ของเขาเหมือนตอนส่องไฟฉายหากลไกหาประตู มีผมเดินตาม ตื่นเต้นถึงขีดสุด รู้สึกเหมือนได้ความไร้เดียงสาของเทียนเจินกลับคืนมาท่ามกลางคำขออันไม่ไร้เดียงสานักของเถ้าแก่อู๋

เมื่อเราไปถึงห้อง เมินโหยวผิงก็รับชุดกี่เพ้าไป สีหน้ายังไม่คลายความลำบากใจ เขาถามผม "นายคิดดีแล้วเหรอ?"

ผมหัวเราะพลางตบไหล่เขา "เป็นจางฉี่หลิงแล้วมีอะไรต้องกลัวอีก? ฉันเป็นพวกมั่นใจในหน้าตาตัวเอง นายแม่งหน้าตาดีกว่าฉันเยอะ หัดเอาอย่างฉันบ้างก็ได้"

"ฉันกลัวว่าเริ่มแล้วจะหยุดไม่ได้"

ผมเงียบอึ้งไป ใช้เวลาประมวลผลคำพูดสั้นห้วนของเขาอยู่นาทีเต็ม หยุดไม่ได้... คนที่ควบคุมทั้งร่างกาย ความคิด และจิตใจของตัวเองได้ดีถึงขีดสุดเช่นเขาน่ะหรือจะกลัวว่าตนจะหยุดไม่ได้ น้องเสี่ยวเกอกังวลมากเกินไปแล้ว! ผมหัวเราะใส่เขาอย่างอดกลั้นไว้ไม่อยู่ อะไรกัน ที่แท้จางฉี่หลิงก็แค่กลัวว่าใส่ชุดกี่เพ้าแล้วจะเป็นตุ๊ดเป็นแต๋วถาวรไปหรอกเหรอ? นายแม่งเป็นไอ้ลูกเจี๊ยบบ้าหน้ามึนของแท้ ปกติจางฉี่หลิงไม่เคยลังเล แต่สีหน้าท่าทางลำบากใจเมื่ออยู่กับผมเช่นนี้เท่านั้นกลับให้ความรู้สึกที่ไม่เลวเหมือนกัน

ผมบอกเขาว่าขนาดเป็นเหม่งจางยังไม่เห็นจะเหม่งถาวร ผมเป็นอาสามก็ไม่ได้เป็นนักเลงหัวไม้ไปเลยเสียหน่อย ซุป'ตาร์จางอย่างเขามีอะไรต้องกลัวด้วย

"มีฉันอยู่ นายไม่มีอะไรต้องกังวล" ผมบอกเขาพร้อมกับส่งยิ้ม เอื้อมมือไปจับมือเขาเพื่อให้กำลังใจอย่างอบอุ่น แม่งเอ๊ย ไม่คิดว่าจะมีวันนี้ได้ ฮาโลวีนนี่มันดีจริงๆ โว้ย กี่เพ้าจงเจริญ!

เมินโหยวผิงมองผมอยู่นาน จากนั้นก็ผ่อนลมหายใจเหมือนตกลงปลงใจแล้ว เขายอมเริ่มต้นในที่สุด เริ่มจากเอื้อมมือมาปลดกระดุม...ของผม

"เดี๋ยว จางฉี่หลิง เดี๋ยว ฉันว่ามันต้องมีอะไรผิดไปแน่ๆ"

เขาไม่ฟัง สองนิ้วที่ยาวเป็นพิเศษของเขาทำงานได้รวดเร็ว กระดุมบนเสื้อของผมถูกแกะออกทีละเม็ดในชั่วพริบตา เพียงไม่กี่วินาทีผมก็ยืนตัวเปล่าเหลือแต่ลิงอยู่ตรงหน้าเขา นอกจากนี้แม่งยังอุตส่าห์เหลือถุงเท้าไว้ให้คู่นึง น่ารักมาก

"เดี๋ยว เสี่ยวเกอ ฉันให้นายเป็นคนใส่ ไม่ใช่ฉัน" ผมยกมือห้ามเขาพร้อมกับก้าวถอยหลัง

เมินโหยวผิงพยักหน้านิ่งๆ เขาหยิบชุดกี่เพ้าคลี่ออก ก้าวยาวๆ เข้ามาหา จากนั้นผมก็โดนจับล็อกผมไว้กับกำแพงอย่างง่ายดาย เรี่ยวแรงผมหายไปหมดด้วยแรงบีบประหลาดที่เขาจับตัวผมไว้ เชี่ย พ่อง ผมทำได้เพียงพ่นคำด่าสารพัด ซึ่งเขาตอบผมเพียงสั้นๆ ว่า "นายบอกเองว่าต้องให้ฉันเท่านั้นเป็นคนใส่"

ไม่ใช่ใส่แบบนี้โว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!

ไม่ใช่! ไม่ใช่! ไม่ใช่แบบนี้! เมื่อกี้คำขอร้องของผมมันผิดพลาดไปตรงไหนมั่งวะ ผมพูดผิดตรงไหน ผมต้องการให้เขาเป็นคนใส่กี่เพ้าลงบนตัวของเขาเอง ไม่ใช่ให้เขาเป็นคนใส่ให้ผม ห่า ไอ้บัดซบ ที่ผ่านมาเขาฟังโดยรับรู้เป็นคนละเรื่องเดียวกันอย่างนั้นหรือ

"เดี๋ยว เสี่ยวเกอ เราต้องเจรจากัน อย่าให้สถานการณ์ปั่นหัวเราได้" ผมพยายามบอกห้ามเขา ให้เรามาทำความเข้าใจกันใหม่ แต่ดูเหมือนเขาไปถึงจุดที่ "กลัวว่าเริ่มแล้วจะหยุดไม่ได้" ที่เขาว่าเสียแล้ว เพียงไม่นานผมที่ตัวอ่อนย้วยไร้เรี่ยวแรงก็โดนเขาเปลี่ยนชุดให้ใหม่หมด มันเป็นกี่เพ้าสีน้ำเงินสด ผ้าเนื้อดี เก็บได้นานปีไม่มีเก่า ด้วยส่วนสูง 181 ซม. ของผม ใส่แล้วดูโคตรสั้น โคตรน่าอาย

เมินโหยวผิงปล่อยมือในที่สุด เขาจ้องมองผม จากนั้นก็ส่ายหน้าแล้วผละออก ผมซึ่งติดจะมั่นใจว่าตัวเองหน้าตาไม่เลวแทบจะทรุดตัวลงไปนั่งร้องไห้อยู่รอมร่อแล้ว ทำผมถึงขนาดนี้ยังจะมาส่ายหน้าอีก จิตใจหมอนี่แม่งทำด้วยอะไร!

ทันใดนั้นผมได้ยินเสียงแก๊ก เงยหน้าไปพบว่าเขาเดินไปล็อกประตู ระหว่างทางก็ก้มเก็บกล้องดิจิตอลที่ผมทำหล่นไว้กลับมาด้วย ผมมองเขาอย่างไม่เข้าใจ น้ำตาปิ่มๆ จะไหลทะลักออกมาแล้ว

"นายดูดีเกินไป คงต้องขังไว้ดูกันเองสองคนในนี้" เขากล่าวเสียงต่ำพร่า ตอนก้มเก็บกล้องเส้นผมของเขาตกลงมาปรกหน้าดูโคตรทะมึน แม่งเอ๊ย ไม่ต้องแต่งอะไรก็เหมือนผีแล้วจริงๆ ด้วย หัวใจผมแทบระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ ขณะมองไอ้บ้าผีทะเลตรงหน้า เรื่องราวมันมาถึงจุดนี้ได้ยังไงวะ ผมเกลียดวันฮาโลวีน ผมเกลียดกี่เพ้า!

เรื่องราวหลังจากนั้น...

หลังจากนั้น...

ด้วยความเคารพ ผมไม่ใช่พวกนิยมชมชอบคอสตูมเพลย์เป็นพิเศษ โรลเพลย์ก็ไม่ได้ชอบ และผมก็ไม่ใช่พวกชอบเล่นกล้องถ่ายรูปไปด้วย ขอเรียนไว้เพียงเท่านี้ สวัสดีวันปล่อยผีขอรับท่านใต้เท้า




+++

END
30/10/2014



#dmbjdaily 291 days left : ฮาโลวีน



Talk Time:

ขอเล่น #DMBJdaily ด้วยคนนะคะ ヽ(≧▽≦)ノ

ด้วงความเคารพ เอ้ย ด้วยความเคารพ...นี่คืออะไรอะ แง เขียนอะไรลงไปปป ทีแรกตั้งใจจะเขียนแค่แดรบเบิ้ลค่ะ ไปๆ มาๆ กลายเป็นลากยาวมาถึงจุดนี้ได้ไงไม่รู้ โฮฮฮ _:(´ཀ`」 ∠):_

ทีแรกจะมีแค่ครึ่งแรกด้วยซ้ำค่ะ เขียนด้วยความลังเล ไม่แน่ใจว่ามันควรจะติดแท็กผิงเสีย หรือเสียผิงดี พอเขียนถึงข้างล่าง...อืม... "เรื่องบางเรื่องพอเริ่มไปนานๆ ก็หยุดไม่ได้แล้ว" ซุป'ตาร์จางไม่ได้กล่าวไว้... เป็นผิงเสียไปแล้ว ก็เป็นผิงเสียไปตลอดกาลแบบนี้ละค่ะ

ไทม์ไลน์เหรอ? ไทม์ไลน์ก็...มโนเอาว่าหลังวันชาติแล้วกันค่ะ ชีวิตอันสงบสุข (หืม?) ของผิงและเสีย *ปิดตาชี้เรื่องอื่นๆ อีกมากมายในบลอคนี้* ก็เห็นบรรยากาศเรือตอนนี้ดราม่ากันเยอะแล้ว เราเลยอาสามาเติมความบ้าบอให้กับเรือค่ะ เย้ (/ ゚▽゚)/ *โดนไล่ตี*

อนึ่ง ต้องขอเรียนก่อนว่าคงไม่ได้มาเล่นเดลี่ทุกวัน ขึ้นอยู่กับโอกาสและสถานที่ ตอนนี้ด้วงตื่นตระหนกหนีกระจัดกระจาย (...เป็นอังกอร์เรอะ) *แค่ก* ไม่ใช่ค่ะ ช่วงนี้กำลังจัดการกับตอนสเปเชี่ยลและอื่นๆ ในโปรเจคต์รวมเล่มอยู่ ส่วนร่างจริงก็กระจัดกระจายอยู่จริงๆ ค่ะ ช่วงนี้ต้องทำงานนอกสถานที่กันลูกเดียว ถ้าหายไปจากทวิตบ้างหรือมาเล่นไม่ครบวันบ้างก็อย่าเพิ่งลืมกันไปนะคะ โฮ *ทิ้งตัวลงคุกเข่าเกาะขาเรือเอาไว้* (เดี๋ยว เดี๋ยว เรือที่ไหนมีขาให้เธอเกาะ)


(เบื้องหลัง)

"มันฮัลโลวีนยังไงเนี่ย..."

"ผีสาวไง ผีจีน! มีผีทะเลด้วย!"

"แล้ว...ถ้าวันหนึ่งมีเดลี่ธีมกี่เพ้าผุดขึ้นมาจะทำยังไง"

"ก็...เอ่อ...เขียนภาคต่อ"

"จ้ะ จ้ะ"

5 ความคิดเห็น:

  1. วหดาหสวก่เ บิดเขิน ๆๆๆๆ
    อยากเห็นนายน้อยในกี่เพ้าบ้างจังเลยค่ะ T///////v////////T)
    วันปล่อยผีแต่ดันโดนขัง(?) งั้น นายน้อยก็เล่น Trick or Treat กับกิเลนไปพลาง ๆ ก่อนแล้วกันนะคะ ฟฟฟฟฟฟ
    ป.ล. เสี่ยวเกอนี่ซื้อบือจริง ๆ หรือแกล้งซื่อบื้อคะ โอ๊ยยย พ่อคุณเขาเข้าใจผิดได้น่าเอ็นดูมาก ๆ

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ31 ตุลาคม 2557 เวลา 00:19

    5555555555555555555555555555555555555
    อ่านไปขำไปหยุดหัวเราะไม่ได้เลยค่ะะะะ ; 7 ;
    โอยไม่ไหวแล้ว นายน้อยอับจนด้วยคำพูดตัวเองแท้ๆ555555555555

    ตอบลบ
  3. เสี่ยวเกอตัวร้าย นายคนเจ้าเล่ห์หน้ามึน
    ตีให้ตายเราก็ไม่เชื่อหรอกว่านายจะเข้าใจผิดจริงๆอ่ะ นายจงใจใช่มั้ยล่า
    น่าสงสารอู๋เสียนะ วางแผนซะดิบดี สุดท้ายตัวเองถูกจับแต่งเองซะเต็มยศเลย 555
    สงสารก็สงสาร แต่ขำมากกว่า โอ๋ โอ๋ ไม่ร้องนะอู๋เสียนะ
    ว่าแต่ มันต้องมีต่อสิ ฉากหลังจากนั้นน่ะ จบแค่นี้ได้ไง เราไม่ยอมมมม

    จุดอ่อนของเสี่ยวเกอคืออู๋เสีย พักนี้เสี่ยวเกอใจดีกับผมมาก ไม่รู้ทำไมแต่อ่านพารท์นี้แล้วมันรู้สึกกิ๊บก๊าวดีจังค่ะ

    เพิ่งอ่านเล่ม 10 จบ แถมพักหลังๆเจอแต่ฟิคมาม่าของผิงเสีย เจ็บปวดแบบหนักหน่วงเป็นที่สุด ขอบคุณสำหรับฟิคน่ารักๆนะคะ

    Happy Halloween ค่ะ ^^


    ตอบลบ
  4. โอ๊ยยยยยย งื้มมมมมมมม อร๊ายยยยยย
    บอกได้คำเดียวว่าอยากได้โดนอู๋เสียโดนผีลวนลา----- *สัญญาณขาดหาย

    น่ารักมากอ้ะะะ //ของดมาม่าในบอร์ดชั่วคราว
    คืออ่านเล่มสิบจบแล้วมันให้อารมณ์ซดมาม่าจริงๆ
    (ถึงจะฟินก็เถอะฟฟฟฟฟฟฟ)

    อยากได้ธีมกี่เพ้าต่อค่ะ อิอิ♥♥

    ตอบลบ
  5. เพิ่งได้อ่านค่ะ ฮามากกกกกกกกก โอ๊ยคู่นี้ จินตนาการภาพนายน้อยใส่กี่เพ้านั่งกัดผ้าเช็ดหน้าน้ำตาจิไหล 5555555555 ถ่ายไว้เยอะๆค่ะ ขาอ่อนนายน้อย

    เสี่ยวเกอร้ายกาจมาก อู๋เสียพูดผิดตรงไหน
    แต่ตีความแบบเสี่ยวเกอก็ดีเหมือนกัน อุ๊บสสส55555

    ตอบลบ