วันพุธที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2557

[Daomu One-shot][老痒] Distrusted

 

"เชื่อไม่ได้ (Distrusted)"

 

Daomu Biji (Grave Robbers’ Chronicles) One-shot Fan-fiction
Pairing: -


**Super Spoiler Warning**

**มีเนื้อหา Spoiler เล่ม 2 รุนแรงค่ะ ถ้ายังอ่านไม่ถึงอย่าเพิ่งอ่านน้า**




...นายอาจคิดว่าที่ฉันห้ามไม่ให้นายเข้าไปในถ้ำนั้น เพราะฉันกลัวว่าจะถูกเปิดโปง แต่จริงๆ แล้วฉันรู้ดีที่สุดว่าถ้ำนั่นอันตรายมาก ฉันไม่อยากให้นายตาย



"เหลาหย่าง" หยุดมือที่กำลังเขียนปากกา ตัดสินใจที่จะไม่จรดอักษรตัวถัดไป ขยำกระดาษที่กำลังเขียนอยู่ทิ้ง

ไม่มีประโยชน์...อู๋เสียคงไม่ต้องการคำแก้ตัวจากคนที่หลอกใช้เขา ข้อความสุดท้ายจากเขาถึงอู๋เสีย ควรเป็นเพียงอักษรที่บอกเล่าข้อเท็จจริง บอกในเรื่องที่เพื่อนเก่าผู้นั้นอยากรู้ ไม่จำเป็นต้องเล่าความรู้สึกเบื้องหลังใดๆ ลงไปในนั้น

เขาปาก้อนกระดาษเฮงซวยทิ้งลงถังขยะ ถังนั้นล้นเต็มไปด้วยเศษขยะอยู่ก่อนแล้ว ก้อนกระดาษจึงร่วงตกจากขอบถัง ขยับกลิ้งต่อไปอีกเพียงน้อยนิดก่อนจะหยุดลงใกล้ๆ ขยะอีกกองที่ล้นเป็นพะเนินรกเละเทะ

เหลาหย่างลุกจากโต๊ะเขียนหนังสือเก่าคร่ำคร่าไปที่หน้าต่าง บ้านซอมซ่อ โครงหน้าต่างใกล้พัง ไม่ได้รับการบูรณะมานานปี ชายหนุ่มถอนหายใจมองฟ้า แล้วล้วงเอาบุหรี่มวนหนึ่งขึ้นมาจากกระเป๋าว่างเปล่า บุหรี่ติดไฟได้โดยไม่ต้องใช้ไฟแช็ก

เขาหลอกลวงเพื่อนคนสำคัญที่สุดคนหนึ่งในชีวิตให้ไปร่วมเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายเพื่อวัตถุประสงค์ส่วนตัว หนำซ้ำยังเป็นเหตุสำคัญที่ไม่อาจบอกให้รู้ล่วงหน้าก่อนได้ คนขี้ระแวงอย่างอู๋เสีย หากรู้วัตถุประสงค์ที่แท้จริงของเขาถึงตายก็คงไม่ยอมร่วมด้วย จึงต้องใช้วิธีหลอกพาเขาไป

ลงท้ายเรื่องราวกลับบานปลายเกินคาดคิด การผจญภัยครั้งนี้เกือบลงเอยด้วยเพื่อนฆ่าเพื่อน

...ที่สะท้านสะเทือนที่สุด คือฝ่ายที่คิดฆ่าก่อนคือเขาเอง

เหลาหย่างอัดบุหรี่เข้าปอดด้วยสีหน้าเหม่อลอย ความคิดเวียนวนในใจเหมือนควันบุหรี่ที่ลอยฟุ้ง คำพูดของอู๋เสียยังก้องอยู่ในหัว

"เหมือนกันเปี๊ยบอะไรกัน ฉันไม่เชื่อว่าเหลาหย่างจะยิงปืนใส่ฉัน นายมันเป็นของก็อปมีตำหนิ!"

ในวินาทีที่ได้ยินคำพูดนั้นจากปากเพื่อนสนิท ความมั่นใจที่เขาพร่ำบอกกับตัวเองมาตลอดก็พังทลาย

เขาเฝ้าย้ำกับตัวเองทุกลมหายใจว่าตนคือเหลาหย่างตัวจริง บัดนี้เพียงคำพูดเดียวก็สั่นคลอนความพยายามเหล่านั้นล่มสลายลงในชั่วพริบตา

ชายหนุ่มฉากหลบจากซอกหิน ดับไฟ หลับตาแน่น เขาไม่อาจทนต่อสายตาเพื่อนเก่าที่มองมาด้วยใบหน้าซีดเผือดตื่นตะลึงเหมือนเห็นสัตว์ประหลาด หากอู๋เสียไม่เห็นเขาเป็นเหลาหย่าง "เหลาหย่าง" คนนี้ก็ไม่เหลืออะไรอีกต่อไปแล้ว ไม่ใช่แค่เพียงหลอกตัวเองต่อไปไม่ได้ แต่แม้แต่ต่อหน้าอู๋เสีย เขาก็เป็นเซี่ยจื่อหยาง เพื่อนเก่าคนเดิมต่อไปไม่ได้ด้วย

ความล่มสลายมันเป็นเช่นนี้ เหลาหย่างเคยได้ยินเรื่องราวของมนุษย์ผู้กราดเกรี้ยวที่ทำลายล้างทุกสิ่งรอบตัวจนไม่เหลือสิ่งยึดเหนี่ยวอะไรเลย สุดท้ายคนคนนั้นจึงทำร้ายแม้กระทั่งตัวเอง แต่สำหรับเขาตอนนี้ เขาเป็นคนที่ทำลายตัวเองลงก่อน เหลือเพียงสิ่งยึดเกาะเดียวคือมิตรภาพที่หยิบยื่นมาจากภายนอก เมื่อเขากำลังจะสูญเสียมันไปเพราะความผิดพลาดของตนเอง ความกราดเกรี้ยวที่ไร้หนทางระบายนี้จึงเลือกหนทางทำลาย

เหลาหย่างผ่อนลมหายใจออก มองท้องฟ้าสีสลัวจากริมหน้าต่าง เวลาล่วงจนมาถึงป่านนี้แล้ว คนที่หันกระบอกปืนใส่เพื่อน จะพูดว่า "ไม่อยากให้นายตาย" ก็กลายเป็นเรื่องน่าตลก ต่อให้เป็นเขาเองก็ไม่มีวันเชื่อลง

ตัวเขาที่บันดาลโทสะได้ถึงเพียงนี้ ไม่อาจมีหน้าเป็นเพื่อนกับอู๋เสียได้อีกต่อไป แม้เขายังติดค้างคำอธิบายอีกมากมาย แต่กลับไม่เหลือวิธีบอกเล่าใดๆ ที่เชื่อถือได้อีกเลย

...เพราะลำพังเพียงตัวตนของเขา ก็เป็นของแปลกปลอมมีตำหนิไปเสียแล้ว



เวลาผ่านไปเกินชั่วบุหรี่หนึ่งมวน แต่บุหรี่ของเขากลับยังไม่หมด เหลาหย่างหันกลับมายังโต๊ะเขียนหนังสือ ขยี้ดับปลายบุหรี่กับจานเหล็กบนโต๊ะ เขาทิ้งก้นบุหรี่รวมกับกองบุหรี่เก่าที่นอนอยู่ในจาน ทุกมวนในนั้นล้วนยังมีสภาพเสมือนใหม่ บุหรี่ยังไม่ไหม้สั้น คล้ายเพิ่งจุดสูบไปได้ไม่นานก็ถูกดับทิ้งไปกลางคันเสียมากกว่าจะหดสั้นอย่างที่มันควรจะเป็น

นี่เป็นอีกสิ่งที่เขาไม่อาจเชื่อได้ลง แต่ก็แสร้งทำเป็นมองไม่เห็นมาตลอด ลึกๆ แล้วตัวเขาเองก็ยังไม่แน่ใจนักว่าหากที่ยืนอยู่ตรงนี้มิใช่เหลาหย่างที่ถูกเสกสร้างขึ้น แต่เป็นเซี่ยจื่อหยางคนเก่าที่ได้รับพลังจากต้นไม้สำริดด้วยวิธีการใดวิธีการหนึ่ง หากเขาบังเอิญหนีรอดออกมาได้ เด็กติดอ่างขี้ขลาดคนนั้นจะกล้าใช้พลังวิเศษจนคุ้นเคยถึงขั้นเสกบุหรี่ขึ้นมาสูบต่อหน้าต่อตา มวนต่อมวน แบบเขาตอนนี้หรือไม่

คำถามนี้เขาได้แต่สงสัย ถามไปก็ไม่ได้คำตอบ เพราะแม้แต่ตัวเขาที่คล้ายคลึงกับตัวตนนั้นมากที่สุด ก็ยัง "ลืม" ไปแล้ว

พักนี้ความจำของเขาแย่มาก รายละเอียดสำคัญหลายอย่างที่ควรจะจำได้กลับนึกไม่ออก เหลาหย่างคนเก่าควรจะเป็นอย่างไร ให้นึกตอนนี้ก็ไม่รู้แล้ว

ตลอดการเดินทางกับสหายเก่า บางครั้งเรื่องในอดีตผุดพรายเหมือนก้อนอารมณ์ก้อนหนึ่ง บ้างคลุมเครือ บ้างแจ่มชัด เมื่อหันไปเห็นใบหน้าเหน็ดเหนื่อยเหงื่อโซมของอู๋เสีย เขาถึงกับหลุดปากอยากถอยหลังกลับหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ต้องกดข่มความรู้สึกนั้นลงไป อาศัยเล่นบทเพื่อนเก่าขี้ขลาดจอมโลเลคนเดิมเพื่อกลบพิรุธให้แผนการเดิมสำเร็จลุล่วง รู้ตัวดีว่าไม่มีหนทางให้ถอยกลับอีกต่อไปแล้ว

เหลาหย่างเคยคิดว่าสมุดบันทึกที่ติดตัวออกมาเมื่อครั้งที่หนีออกจากกรวยเมื่อสามปีก่อน เป็นเพียงเบาะแสเดียวที่หลงเหลือท่ามกลางอดีตซึ่งเลือนรางลงทุกวินาที ในนั้นมีบันทึกข้อความไม่มาก แต่ก็เต็มเปี่ยมด้วยอารมณ์ของตัวเขาในอดีต เหลาหย่างพลิกมันหลายที ท่องย้ำซ้ำๆ มันทุกวัน

จนวันหนึ่ง เขาถึงเพิ่งรู้ตัวว่า แม้แต่บันทึกที่เป็นเบาะแสของความรู้สึกนึกคิดในอดีตก็ไม่ใช่สิ่งเชื่อถือได้เช่นกัน

เขาถูกเสก สมุดที่ติดตัวออกมาก็เป็นสิ่งถูกเสก หากเป็นเช่นนั้น ข้อความในสมุดนั้นจะเชื่อถือได้สักแค่ไหน?

หากเป็นเช่นนั้น อารมณ์ความรู้สึกนึกคิดที่ปรากฏอย่างวูบไหวขณะเดินทางร่วมกับอู๋เสีย จะมีสิ่งใดที่เชื่อถือได้กันบ้างเล่า?

เหลาหย่างยืนอยู่ท่ามกลางสิ่งหลอกลวง ตัวเขาก็เป็นสิ่งหลอกลวง รายละเอียดประดับรอบกายก็ล้วนเป็นสิ่งหลอกลวง

หากเขาจะมอบถ้อยคำสุดท้ายแก่อู๋เสีย ตัวตนไร้เดียงสาอันปราศจากมารชั่วร้ายคนนั้น คงมีเพียงข้อเท็จจริงที่ปรากฏอยู่ตำตาเท่านั้นที่พอจะมอบให้กับเขาได้

เหลาหย่างจรดปากกาอีกครั้ง ถ้อยคำสารภาพพรั่งพรู

ยอมรับเป็นครั้งแรกว่าตนเป็นเพียงสิ่งจำลอง

สารภาพอย่างหมดรูปถึงความบิดเบี้ยวของเหตุการณ์ในครั้งนั้น

เล่า "ความจริง" ตัดความ "รู้สึก" และ "อารมณ์" จากอดีตอันเชื่อถือไม่ได้ทิ้งไป

ข้อความที่ปรากฏวนซ้ำในกระดาษร่างหลายฉบับที่ถูกทิ้งไปก่อนหน้านั้น จึงไม่อาจปรากฏบนกระดาษจดหมายฉบับนี้ได้อีก

ถ้อยความรู้สึกอันเชื่อไม่ได้ถูกฝังอยู่ใต้กองขยะนั้นตลอดไป ไม่มีใครบนโลกจะได้เห็นมัน



เหล่าอู๋ ฉันรักนาย รักนาย...



+++

END
14/10/2014






Talk Time:

"เหล่า...เหล่า...เหล่าอู๋!! ไอ้คนแปลกหน้าหน้าง่วงไม่พูดไม่จานั่นมันดีกว่าฉันตรงไหนเหรอ!? ทำ...ทำไมนายต้องไปทุ่มเทช่วยเขาขนาดนั้น!"

นี่คือความรู้สึกหลังอ่านบันทึกจอมโจรแห่งสุสานเล่ม 9 จบค่ะ... ไม่มีบทเหลาหย่างก็จริง แต่ได้เห็นตัวเปรียบเทียบความลำเอียงของนายน้อยแล้วอยากซับน้ำตาแทนเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ (มโนเอง) คนนี้จริงๆ!

อืมนะ ความจำเสื่อมเหมือนกัน บุคลิกภาพติดลบเหมือนกัน ใกล้ม่องเหมือนกัน ตัวตนของเสี่ยวเกอก็ยังคลุมเครือ นายมั่นใจได้ยังไงว่าเทพขนาดนั้นเขาจะยังเป็นคนน่ะ!? (พาล) แต่เอาเถิด ต่อให้เมินโหยวผิงติดลบมากกว่านี้ เหล่าอู๋ก็ยังเลือกเมินโหยวผิงอยู่ดีแหละนาย ทำใจซะนะเหลาหย่าง *ตบบ่า*

จริงๆ แล้วปลื้มเหลาหย่างมานานมากแล้วค่ะ (อื้อหือ นี่ขนาดปลื้ม 555) เคยพีคถึงขั้นอยากเขียนโดจินเมนเหลาหย่างเลย แต่...ไม่รู้จะต่อเรื่องยังไงดี OTL แบบว่า หนานไพ่ซานซูส่งนายไปไกลๆ แล้วไม่กลับมาอีกเลยง่ะ ทำไมไปไกลงี้ แถมติดตั้งระเบิดเคาน์ดาวน์ความจำเสื่อมไว้ให้อีกสามปี นายน้อยก็ไม่เห็นจะพูดถึง เรือหาย ship lost ของจริงไม่ติงนัง โฮ!

ถึงกับมีคนบอกว่าเรือเหลาหย่าง→อู๋เสีย (เส้นแสดงความรักเขาข้างเดียว) คือเรือที่ล่มเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์เต้ามู่เลยทีเดียวค่ะ ก็เรือพี่ท่านเล่นพลิกคว่ำกันในเล่มเดียว อู๋เสียก็ไม่ได้แคร์นายขนาดนั้น โดนตอกย้ำด้วยฉากเสี่ยวเกอกลับมาเจอกันบนรถไฟตอนคีบลามะฉางไป๋ซาน นายน้อยกลับไปเดินตามนายเมินโหยวผิงดุ๊กๆ ตามรูทีนชีวิตปกติ ราวกับจะประกาศให้รู้ซะบ้างว่าไผเป็นเรือใหญ่ ไอ้เราจากที่ยังอาวรณ์เหลาหย่างอยู่ ก็เผลอใจหลุดกลับไปตึกตักตึกตักใส่นายเมินที่มองลงมาจากบนเตียงนอนบนรถไฟซะด้วย...บายนะ เหลาหย่าง บ๊าย~ (เชื่อเถิดว่าปลื้มเหลาหย่างจริงๆ นะ 555)

อาห์ เป็นฟิคเหลาหย่างแท้ๆ แต่ทอล์คกลับมาอวยผิงเสียซะอย่างนั้น ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ก็ยังเอ็นดูพ่อหนุ่มของก็อปจีนแดง พ่อคนติดอ่างติดแม่ติดคุก พ่อคนอกหักรักคุดเทียนเจินไม่รักอยู่นะคะ *ลูบหัวเกรียนกอดโอ๋ป้อยๆ*

ปล.1 เคยมีคนตอบคำถามที่เราตัดพ้อไปข้างบนแล้วล่ะ เขาบอกเราว่าเมินโหยวผิงต่างกับเหลาหย่าง เพราะ "เมินโหยวผิงไม่เคยยิงปืนใส่อู๋เสียยังไงล่ะ" โห เรางี้ลุกขึ้นเลยค่ะ...ลุกขึ้นยกธงขาวยอมแพ้ 555 แง นายน้อยยังไงก็เลือกเสี่ยวเกอ ยิ่งนานยิ่งชัด แงงง บุ๋งๆๆๆ #เสียงโอดครวญจากเรือ ship lost

ปล.2 จนวันนี้กลับไปพลิกเล่ม 2 มาอ่านใหม่บ่อยๆ ก็ยังไม่คลายสงสัยว่าคำพูดสุดท้ายของเหลาหย่างที่จะบอกนายน้อยก่อนหินยุบลงไปนั่นเขาอยากพูดอะไรกันนะ~ ด้วงเห็นช่อง ด้วงจึงมโนซะเลยค่ะ U////U ดราม่ารักคุด แผล็บ

ปล.3 แวะมา edit เพิ่ม เพิ่งเห็นว่าลืมย่อยมุกเล็กน้อย "ตัวตนไร้เดียงสาอันปราศจากมารชั่วร้ายนั้น" หมายถึงอู๋เสียค่ะ ไร้เดียงสาอันนี้คาดว่าน่าจะรู้กันอยู่แล้ว ว่ามาจาก "เทียนเจิน (เทียนเจินอู๋เสีย)" นั่นเอง ส่วนปราศจากมารชั่วร้าย เป็นคำพ้องเสียงของชื่อ "อู๋เสีย" ค่ะ คุณเบียร์ผู้แปลเคยย่อยเรื่องชื่อแซ่ของนายพระเอกคนนี้เอาไว้ใน ทวิตเตอร์ ค่ะ สามารถตามไปอ่านต่อกันได้จ้ะ

5 ความคิดเห็น:

  1. โอีย อ่านฟิคละสงสารเหลาหย่างมากๆเลยค่ะT-T นายนี่พระเอก(?)โลกลืมจริงๆเลย
    เห็นคุณด้วงโกะบอกว่าเรือเหลาหย่างอู๋เสียนี่เป็นเรือที่ล่มเร็วที่สุดเพราะจบในเล่มแถมท้ายเล่มนายน้อยยังไงงุงิกับเสี่ยวเกอบนรถไฟให้คุณด้วงเขวด้วย๕๕๕๕ อ่านแล้วตรงนั้นแอบขำมากกค่ะแต่ก็เข้าใจฟีลเลย

    แอบอยากให้เหลาหย่างกลับมาอีกมากๆๆๆๆๆ ตอนอ่านฟิคนี้ก้มีความรู้สึกว่าเหลาหย่างเองก็ยังอยู่ที่ไหนสักแห่ง เผลอๆในอนาคต(แห่งการมโน)น่าจะได้เจอกันนายน้อยอีกน้าาาา

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ15 ตุลาคม 2557 เวลา 23:17

    อูย ประโยคสุดท้ายมันบาดใจ
    แต่นายน้อยหน้ามืดตามัวกับนายเมินไปตั้งแต่เล่มแรกซะแล้ว อ่านเล่ม 9 จบเรางี้น้อยใจแทนคนอื่นที่โดนนายน้อยปล่อยเบลอ ศรรักมันคงปักอกแบบใครมาก่อนได้ก่อนล่ะมั้งคะ

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ16 ตุลาคม 2557 เวลา 21:01

    โอ๊ยยยย เหลาหย่างงงง นายมันน่าสงสารนักกก ; ;

    ชอบอ่านทอล์คด้านล่างจังเลยค่ะ 555 พอเอามาเทียบกันแล้วก็น่าสงสัยจริงๆด้วยว่าทำไมอู๋เสียลำเอียงอย่างนี้ 5555 #เหลาหย่างร้องไฟ้ทำไม
    ปล.1 นี่มันใช่เลยค่ะ!!

    ตอบลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ17 ตุลาคม 2557 เวลา 15:41

    สงสารเหลาหย่างแฮะ
    ชีวิตของอู่เสียดูวนเวียนอยู่รอบเสี่ยวเกอแทบตลอด
    ไม่ว่าจะต้องบุกน้ำลุยไฟยังไง
    ฉันก็จะอยู่

    ขอให้ได้กลับมาเจอกันอีกละกันน้าาา

    ตอบลบ
  5. พ่อคนติดอ่างติดแม่ติดคุก พ่อคนอกหักรักคุดเทียนเจินไม่รัก <<< จะบอกว่าขรรมวรรคนี้มาก ขรรมมาก /จากฟีลดราม่าโดนคิลมู้ดเอ็นดูทันที

    เรารักนายนะเหลาหย่าง ถึงจะขี้แซะ รังแกนาย แต่เราก็รักนายนะผู้ชายติดอ่างติดเฟรนด์โซน เอ็นดู๊ เอ็นดู ย้อนเล่ม2แล้ววประทับใจในความลำเอียงสองมาตรฐานของนายน้อยจริงๆ ฮืออออออออ

    ...ที่สะท้านสะเทือนที่สุด คือฝ่ายที่คิดฆ่าก่อนคือเขาเอง

    ของก๊อปมีตำหนิ และกลายเป็นแบบนั้นเพราะทำตัวเองแท้ๆ เหลาหย่างเอ๊ย กลายเป็นความไม่แน่ใจในตัวตนของตัวเองเข้าไปอีก ร้าวมั้ยล่ะร้าวมั้ย กระทั่งตัวเองก็เชื่อไม่ได้แล้ว ความรู้สึกกะตัวตนนี้มันบิดเบี้ยวไปแล้ว /โซร้าวแต่โคตรก๊าวเลยอ่ะนาย ตบโต๊ะรัวๆ

    "เมินโหยวผิงไม่เคยยิงปืนใส่อู๋เสียยังไงล่ะ" << กี๊ซซซซซซซซ เรางี้ลุกขึ้นตามเลยค่ะ ไอซี โททอลลีอะกรี เป็นแบบนี้นี่เอง พ่ายแพ้เรือใหญ่อย่างหมดรูป เอื้อ....

    เอาจริงเราก็เมาท์มอยกันไปมาก ขอบคุณที่แต่งฟิคดีๆแบบนี้มาให้อ่านกันนะคะ ฟฟฟฟฟ

    ตอบลบ