วันพุธที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2558

[Daomu Fan-fiction][AU Bride] 07: บ้านหลังน้อยของเจ้า


 "007. บ้านหลังน้อยของเจ้า"

 


Daomu Biji (Grave Robbers’ Chronicles) AU Fan-fiction
Pairing: 瓶邪 ผิงเสีย (เมินโหยวผิงxอู๋เสีย)


**Warning: แฟนฟิคเรื่องนี้เป็นนิยาย AU (โลกสมมติ) นะคะ**

 

"เจ้าบอกว่ามีศาลของตัวเองอยู่สินะ ข้าไม่เคยรู้เลยว่าเมืองนี้มีศาลกิเลนด้วย" อู๋เสียเอ่ยคล้ายต้องการชวนสนทนาเรื่อยเปื่อย "ยังไงก็กลับบ้านก่อนฟ้ามืดไม่ได้ ระหว่างนี้รบกวนพาข้าไปเยี่ยมชมศาลหน่อยแล้วกัน"

อู๋เสียลอบสังเกตสีหน้าเจ้ากิเลน มันลงมายืนนิ่งสี่เท้าแบบปกติแล้วดูรื่นตาขึ้นเยอะ อีกทั้งไม่มีสีหน้าปฏิเสธอันใด เขาจึงเหมารวบว่านั่นคืออาการยินยอมของเจ้าสัตว์หน้านิ่งปากหนักตัวนี้

เจ้ากิเลนเดินนำไปตามถนนคดเคี้ยวเส้นเล็ก ทุกย่างก้าวที่คุณชายน้อยบังคับม้าให้ควบตามสัตว์เกล็ดสีเข้มตรงหน้า เขาก็ยิ่งออกห่างถนนสายหลักยิ่งขึ้น อู๋เสียไม่เคยออกนอกเส้นทางมาไกลขนาดนี้

พวกเขาลัดเลาะถนนอยู่พักใหญ่ เส้นทางวกวนจนเลยขีดความสามารถด้านการจำของเขาไปโข มีอยู่วูบหนึ่งที่อู๋เสียคิดว่าตนเองกำลังโดนหลอกไปเชือดกิน แต่ก็ต้องรีบสะบัดหน้าปัดความคิดนั้นออกจากสมองทันที ด้วยเกรงว่าความกล้าที่เหลืออยู่น้อยนิดจะหายไปเสียหมด

'ถ้าโดนฝ่ายตรงข้ามรู้ถึงความกลัวก็เท่ากับจบเห่ทันที' ท่านอาสามเคยสอนเขาเช่นนั้น ดังนั้นถ้าเขายังทำใจเย็นแล้วถ่วงเวลาไปเรื่อยๆ ได้ ผลลัพท์ก็สามารถพลิกผันได้เสมอ

สุดท้ายผู้นำทางก็หยุดเท้าลงหน้าซุ้มประตูเล็กๆ รออยู่ค่อนวันก็ไม่ยักเดินหน้าต่อเสียที อู๋เสียที่เอาแต่นั่งเหม่อครุ่นคิดถึงวิธีเอาตัวรอดจึงเพิ่งรู้สึกตัว

ถึงแล้ว

เขาเงยหน้ามองไปรอบๆ รู้สึกเสียใจเล็กน้อยที่ไม่ได้ตั้งสติกับการจำทาง พื้นที่ส่วนนี้ของเมืองอยู่นอกเส้นทางปกติของเขาโดยสิ้นเชิง หากต้องกลับบ้านเองโดยไม่มีคน (กิเลน) นำหน้า เขาเสี่ยงดวงให้เจ้าม้าตัวโปรดช่วยพากลับบ้านตามสัญชาตญานสัตว์ยังมีหวังได้ถึงบ้านเร็วกว่าคลำกำแพงกลับเอง

อู๋เสียลงจากม้าแล้วจูงเดินเข้าไป ด้านในเป็นที่ดินแปลงเล็ก พื้นที่ทุกตารางนิ้วเต็มไปด้วยวัชพืช ตรงกลางคืออาคารไม้หลังหนึ่ง ทั้งที่ดูเรียบสมถะทั้งเก่าคร่ำคร่าแต่กลับแผ่ความรู้สึกน่ายำเกรงออกมาทุกตารางนิ้ว

ไม้ที่ใช้ทำหน้าต่างบานเล็กคงจะเป็นของคุณภาพต่ำ พอผ่านลมฝนอันอุดมสมบูรณ์ของแถบเจียงหนานหลายปีเข้า เนื้อไม้ก็บวมจนไม่สามารถงับปิดได้สนิท ประตูไม้ด้านหน้าเปิดกว้างทิ้งไว้ อู๋เสียหรี่ตา เขาเห็นสภาพด้านในได้ชัดพอสมควร

ในศาลเจ้าซึ่งถูกทิ้งร้าง มีรูปสลักสัตว์สี่เท้าตัวหนึ่งอยู่บนแท่นบูชา

เมื่อเดินเข้าไปใกล้ยิ่งเห็นว่าทุกสิ่งล้วนถูกปกคลุมด้วยฝุ่น ประตูไม้เหลือแต่โครงผุพัง มันผ่านวันคืนที่ไร้การดูแลรักษามานานเกินไปจนเนื้อไม้บิดโค้งผิดรูป ไม่ต้องพูดถึงการงับปิด ใช้เพียงการขยับเล็กน้อยก็อาจทำให้ประตูหลุดร่วงจากบานพับได้ ตัวศาลก็ไม่ได้มีสภาพดีกว่ากันเท่าใดนัก หากปล่อยทิ้งไว้ลำพัง สิ่งปลูกสร้างแห่งนี้คงแข็งแรงยืนหยัดไปได้อีกหลายปี ทว่าหากมนุษย์คนหนึ่งเดินเข้าไปพร้อมม้าอีกตัว ไม่แน่ว่าศาลเจ้าเล็กๆ แห่งนี้อาจพังถล่มลงในชั่วเวลาลมพัด

ลำพังดูด้วยตาเปล่าก็รู้ว่าไม่มีใครมาเยือนสถานที่นี้นานแล้ว อาจเพราะในบรรดาชาวบ้านที่ย้ายออกไป ไม่มีใครศรัทธาแรงกล้าพอจะฝ่าดงอาคารร้างเพื่อกลับมาปัดกวาดดูแลศาลเจ้าเล็กๆ ที่เทพประจำศาลเป็นแค่สัตว์สี่เท้า แม้มีอำนาจเหนือมนุษย์แต่ก็ไม่ได้สูงส่งมีชื่อเสียงแบบเทพรูปร่างมนุษย์ของศาลเจ้าอื่น นานวันเข้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคยได้รับการเทิดทูนบูชาจึงถูกลืมเลือนไป

หากเรื่องเป็นตามนั้นจริง อู๋เสียก็คิดว่าตนเองเข้าใจเหตุผลที่กิเลนตัวนี้ช่วยเขาแล้ว

เขาหยุดฝีเท้าแค่หน้าประตูศาลเจ้า ไม่เดินเข้าไปด้านในเพราะไม่วางใจผูกม้าไว้ห่างตัว มันเป็นทางรอดเดียวที่เขาสามารถใช้กลับบ้านได้ในกรณีฉุกเฉิน เมื่อหันไปมองเจ้ากิเลน มันก็ยืนนิ่งอยู่ข้างเขาเช่นกัน ดวงตาสีดำสนิทจับจ้องเข้าไปในศาลเจ้า อู๋เสียไม่สามารถระบุได้ว่ามันกำลังมีอารมณ์เช่นไร อาจจะเศร้า อาจจะปลงสังเวช หรืออาจเพียงรำลึกถึงวันเวลาเก่าๆ แต่อู๋เสียไม่เชื่อว่ามันไม่รู้สึกสิ่งใดเลย

"ข้าว่าหากพวกเราเดินสำรวจเมืองฟากนี้ไปเรื่อยๆ ก็คงฆ่าเวลาได้ดีกว่าเสี่ยงชีวิตเข้าไปปัดกวาดศาลของเจ้า เจ้าพอจะรู้จักทำเลดีๆ สำหรับนั่งพักชมวิวบ้างไหม"

เจ้ากิเลนเบือนหน้ามองเขาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ (หากนั่นสามารถนับเป็นสีหน้าของกิเลนได้) แล้วหันตัวเยื้องย่างออกไป อู๋เสียจูงม้าเดินตามไปตลอดทางเพราะอยากจดจำทิศให้แม่นยำด้วยวิธีเดินเท้า



ในอาณาจักรเล็กๆ ซึ่งปราศจากผู้คน ไม่จำเป็นต้องรีบ ไม่จำเป็นต้องหลบซ่อน กิเลนสีดำเดินผ่อนฝีเท้าให้ช้าลงเพื่อเขา ลัดเลาะตามถนนอิฐซึ่งมีหญ้าขึ้นแซมในร่องแยกเป็นระยะ เดินจนถึงทะเลสาบเล็กๆ อันแสนสุขสงบ ที่แห่งนี้คงเชื่อมต่อกับทะเลสาบประจำเมือง

"ท่านอาสามส่งข้อความมาหลอกข้าแต่เช้า ข้ากะว่าจะรีบมารีบกลับแท้ๆ เคราะห์ดีที่พกเสบียงติดมาด้วยไม่งั้นคงต้องทนหิวถึงตอนดึกเป็นแน่"

อู๋เสียเลือกบริเวณที่มีหญ้าอ่อนเพื่อผูกม้า หลังเจอต้นไม้ที่ดูปลอดภัยจากหนอนบุ้งที่สุดก็เข้าไปนั่งพิงหลบแดด ปากก็บ่นญาติผู้ใหญ่สุดที่รักไปด้วย กิเลนดำยืนมองซ้ายขวาอยู่สักพักก็พับขาลงนั่งใกล้กัน คุณชายน้อยเริ่มหมดเรื่องบ่นจึงย้ายเป้าหมายไปยังสิ่งมีชีวิตเดียวในบริเวณนั้นที่สามารถคุยโต้ตอบเขาได้

"ศาลนั่นโทรมน่าดู ข้าว่าหนูวิ่งแรงๆ บนขื่อก็คงทำให้มันพังได้แล้ว ก่อนหน้านี้เจ้าอาศัยอยู่ที่ไหน" เจ้ากิเลนเหลือบมองเขาเล็กน้อยก่อนตอบว่า "ที่นั่น ที่นี่" ทำเอาคุณชายน้อยสบถจิ๊จ๊ะในใจ ความรู้สึกสงสารที่ก่อตัวขึ้นมาได้สองสามส่วนถึงกับสลายหายไปในพริบตาเดียว

อู๋เสียชวนคุยอยู่ครู่หนึ่งก็ยกธงยอมแพ้ แม่นางกิเลนท่านนี้นอกจากรูปร่างหน้าตาจะเหมือนรูปสลักหินที่จมดินโคลนก้นทะเลสาบจนตะไคร่ขึ้นทั่วตัวแล้ว นิสัยยิ่งเหมือนผลิตผลจากก้อนหินจริงๆ ให้เขาคุยกับลูกสุนัขในบ้านยังอาจสนุกสนานครื้นเครงเสียกว่า

คุณชายน้อยส่ายหน้าปลง ขยับตัวลงนอนที่พื้น เอาแขนหนุนคอแล้วนอนเหม่อคิดโน่นนี่ไปเรื่อยจนเผลอหลับทั้งแบบนั้น ไม่รู้ตัวสักนิดว่าหลังจากเขาหลับไป เจ้าสัตว์เกล็ดสีดำข้างตัวก็เอาแต่จับจ้องเขาตลอดเวลาด้วยแววตาอันไม่สามารถระบุความหมายได้





+++

TBC
01/04/2015






Talk Time:

ครั้งที่แล้วมาแปะป้ายลากิจไม่ทันค่ะ ว่าจะอัพฟิคให้เสร็จสักตอนก่อนงานหนังสือแล้วแปะป้ายลาพักเพื่อเก็บข้อมูล 1 อาทิตย์ *กระแอม* แต่จำวันผิด ตอนที่คิดได้ก็ดันกลายเป็นงานหนังสือวันแรกแล้ว... ที่หายไปคือกำลังเดินทางเก็บข้อมูลแบบเลยตามเลยอยู่น่ะค่ะ *หลบตา*


ตอนนี้เนือยไปหน่อย ก็เลยเอามาลงฉลองเอพริลฟูลเลย 5555

/ไม่ได้เกี่ยวกันซักนิด!!


ตอนนี้พระเอกก็ยังไม่ได้ออก โฮ เกือบแล้วนะ อีกนิดนึง กำลังเร่งแต่งอยู่ค่ะ (หลังจากอู้มาเกือบครบอาทิตย์ *กระแอม*)


ด้วง L.



ปล. แถมภาพกิเลนยืนให้เป็นขวัญเอยขวัญตา เอ้า! สามมมม สี่






4 ความคิดเห็น:

  1. /กรี๊ดใส่รูปประกอบ แงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง5555555
    ท่วงท่าซูมากค่ะ สมกับเป็นคุณด้วงL.ซูโกะ

    ลืมไปแล้วว่าจะเม้นท์อะไร เจอรูปแม่นาง(?)กิเลนผงาดค้ำโลกาเข้าไป สมองบิน ฟิ้ว

    ตอบลบ
  2. เห็ดและเห็ด1 เมษายน 2558 เวลา 14:09

    ชอบตอนนี้ที่สุดในบรรดาทุกตอนที่อ่านมาเลยนะคะ แง ทำไมอยู่ๆ ก็จริงจัง T _ T แม่นางกิเลนน่าสงสาร คงเหงาน่าดู

    ตอบลบ
  3. กินเด็กและกินเห็ด1 เมษายน 2558 เวลา 14:22

    แอร๊ยยยยยย กิเลนยืนน่ารัก บ๊องแบ๊วกว่าที่คิด /วิ่งไปฉกกิเลนจากจูเจีย--แค่ก แต่ฝืนท่าแบบนั้นจะแย่กับสุขภาพเอวรึเปล่าค--แค่กอีก

    แหม คุณชายน้อยบ่นนู่นบนนี้ แต่ก็กินอิ่มนอนอุตุต่อหน้าเขาแบบนั้นนี่คิดอะไรอยู่คะ แม่นางท่าทางจะไม่ได้อยู่ศาลมานาน น่าจ๋งจ๋านอะ เหงาหงอยอยู่กับตะไคร่ใต้ทะเลสาบ

    ตอบลบ
  4. กรี้ดใส่กิเลนสองขาค่ะ แงงงงงงงงงงงงง ทำไมดูน่ารักแปลกๆ ยังไงไม่รู้/////v/////
    เมื่อไหร่นายน้อยจะรู้ว่ากิเลนไม่ใช่ตัวเมียสักที ฮือออออ

    ตอบลบ