วันเสาร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

[Daomu One-shot][瓶邪] Shade

 

"Shade" (#DMBJdaily)

 

Daomu Biji (Grave Robbers’ Chronicles) One-shot Fan-fiction
Pairing: 瓶邪 ผิงเสีย (เมินโหยวผิงxอู๋เสีย)


**Spoiler Warning มีเนื้อหาสปอยล์เล่ม 10 จ้า**




ผมไม่ใช่คนกลัวความมืด

อันที่จริงผมแค่ไม่ชอบความรู้สึก ‘ไม่รู้’ ตอนที่ตัวเองตกอยู่ในความมืด ไม่รู้ว่าช่วงเวลาระหว่างเปลี่ยนจากมืดไปสว่าง สิ่งที่ไม่เคยอยู่ตรงหน้าจะมาปรากฏตรงหน้าแบบกระทันหันรึไม่ ไม่รู้ว่ามีสิ่งใดอาศัยขั้นตอนที่ผมมองไม่เห็นเพื่อสร้างความตกใจให้ผมรึเปล่า

ทว่าก่อนนี้ที่ไปลุยสุสานกลางดึกบ้าง ทั้งที่ไปมุดถ้ำลุยป่าจนเจออะไรต่อมิอะไรมากมาย อะไรที่ไม่อยากเจอในความมืด ผมคิดว่าเจอมาครบแล้ว โดนสถานการณ์บังคับให้เห็นทุกอย่างที่ไม่อยากเห็น สิ่งที่ผ่านตาสั่งสมจนถึงตอนนี้ ต่อให้กลัวแค่ไหนก็กลายเป็นชินชาในที่สุด

แต่กลางคืนมาถึงทีไร ผมก็มักนอนจ้องเพดานด้วยความสงสัย หากหลับตาลงจะมีเส้นผมเปียกชื้นลากผ่านใบหน้ารึไม่ จะมีแมลงไต่แขนมุดเข้าปากตอนไหน ตู้เสื้อผ้าปิดแน่นสนิทรึยัง มีรูร่องให้สัตว์จำพวกงูมุดเข้าห้องรึเปล่า

ผมคิดว่า บางที...สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าภูตผีคือใจคน ก็สามารถหมายถึงเรื่องนี้ได้ด้วยเช่นกัน

ผมจำไม่ได้ว่ากี่ครั้งแล้วที่ตัวเองผุดลุกขึ้นนั่งกลางดึก จ้องมองเพดานภายใต้ความมืดของห้อง สุดท้ายก็นอนไม่หลับ ออกไปสูบบุหรี่ข้างนอกมวนสองมวน ครุ่นคิดถึงเรื่องที่ไม่อาจแก้ไข ไม่อาจเปลี่ยนแปลง คนที่อยู่เพียงในใจแต่ไม่อาจหวนกลับมา คิดจนไม่เหลืออะไรให้คิด แล้วค่อยทิ้งตัวลงบนเตียงเพื่อนอนต่อ รักษาร่างกายให้ทำหน้าที่ต่อไปในวันพรุ่ง

ผมไม่กลัวความมืด แต่ความมืดมักย้ำให้ผมคิดถึงเรื่องที่คล้ายดั่งแผลเป็น แผลเป็นที่ยังคงระบมอยู่และจะจารึกบนตัวผมไปชั่วชีวิตไม่ว่ายามหลับหรือตื่น

กระนั้น ผมก็ไม่คิดรบกวนนายอ้วน ไม่นึกอยากพูดคุยกับเขาเรื่องนี้เพื่อเปลื้องออกจากใจ ด้านเขาแม้ไม่แสดงออก ผมรู้ว่าเขาเองก็ได้รับผลจากเรื่องหยุนไฉ่จนถึงปัจจุบัน ไม่อยากรบกวนเขาด้วยเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ นี่เป็นปัญหาของผมเอง

จึงไม่คาดคิดว่า กลางดึกคืนหนึ่งที่ผมสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้าย จะได้เห็นคนนั่งอยู่ใกล้ๆ เตียงตัวเอง

จางฉี่หลิงผู้ทำหน้านิ่งเป็นรูปสลักหินตลอดปีชาติคนนั้น

ตั้งแต่ผมตื่น เขาไม่พูดสักคำ ไม่แม้แต่ปรายตามอง เขาแค่นั่งเฉยๆ ตรงเก้าอี้ริมหน้าต่าง มองออกไปด้านนอกที่มีแต่ความมืด

"ตอนนี้ไม่ได้อยู่ในป่า นายไม่ต้องเฝ้ายามก็ได้"

"ฉันไม่ได้เฝ้ายาม"

เมินโหยวผิงตอบกลับมาโดยยังอยู่ท่าเดิม ผมมองตามสายตาเขา ถึงได้เห็นว่าคืนเดือนมืดเช่นนี้ ด้านนอกแทบจะไร้แสงไฟ แต่ท้องฟ้าด้านบนเต็มไปด้วยแสงดาวมากมาย ประหนึ่งคนโปรยเพชรเม็ดเล็กเท่ากรวดทรายทั้งกำมือลงบนผืนผ้ากำมะหยี่สีน้ำเงินเข้ม

ตอนนั้นเองที่ผมนึกได้ถึงสิ่งที่ลืมเลือนไปตั้งแต่เมื่อใดยังไม่ทันรู้ตัว ท้องฟ้ายามค่ำยิ่งมืดมิด มองไม่เห็นแม้มือตัวเองก็จริง แต่ยิ่งขับให้แสงสว่างจากดาวดวงเล็กยิ่งเด่นจับตา

ผมลืมเลือนไปเสียนาน...ความรู้สึกปลอดภัยเช่นนี้

นับจากนั้น แม้ผมไม่ได้พูด เขาก็เข้ามาอยู่เป็นเพื่อนผมทุกคืน สุดท้ายผมก็ได้แต่หลอกตัวเองไม่ให้เสียหน้า ว่านี่คือการป้องกันไม่ให้เขาหายตัวไปไหนอีก ทำเป็นไม่คิดถึงความจริงที่ว่า ฝีมืออย่างเขา ต่อให้ผมคุกเข่ากอดขาเขาเอาไว้ เขาอยากไปเมื่อใดก็แค่ใช้สองนิ้วยาวๆ นั่นคีบผมทิ้งเท่านั้นเอง

ถ้าคิดแบบนั้นแล้ว...แปลว่าตอนนี้ผมก็กำลังถูกสองนิ้วนั่นคีบเก็บไว้ข้างๆ ตัวเขาอยู่รึเปล่านะ


+++


END
08/11/2014



#dmbjdaily 282 days left : สอง



Talk Time:

#DMBJdaily ค่ะ อีก 282 วัน!! ヽ(゜∇゜)ノ

ถึงจะบอกว่าสปอล์ยเล่ม 10 แต่ไทม์ไลน์ในเรื่องนี่เลยไปไกลแล้วค่ะ ฟีลลิ่งว่าไปรับกลับมาอยู่ร่วมบ้านแล้ว แง *ชูป้ายมโนคือชนะ*

ก่อนหน้านี้เคยเจอเนต้าว่าอู๋เสียมักคิดมากจนมีปัญหากับการนอน บวกกับเราชอบโมเมนต์ที่คนมีปัญหากับการนอนสามารถนอนหลับได้สนิทแม้วันคิดมากเพราะมี "คนที่เชื่อใจได้ คนที่พึ่งพิงทางใจได้" อยู่ใกล้ๆ รู้สึกว่าโรแมนติกดีนะ (≧▽≦) ก็เลยอยากลองแต่งฟิคตอนนี้ขึ้นมาค่ะ (จริงๆแค่อยากหาเรื่องให้เสี่ยวเกออยู่ในห้องนอนอู๋เสีย 5555555555)

คิดๆ แล้วก็สงสารอู๋เสียพิกล จากคุณชายหน้าแบ๊วนั่งๆ นอนๆ ในร้านไปวันๆ ดันต้องมามุดดินคว่ำกรวยจนเจอเรื่องที่ชวนให้นอนแบบขวัญผวา โดนคน (และผี) รังแกจนกลายเป็นคุณชายเทียนเจินที่ไม่ค่อยจะเทียนเจินไปซะแล้ว โธ่...อี้เฟิง *เดี๋ยวๆๆๆ*

ส่วนตัวแล้วเราคิดว่าถึงเสี่ยวเกอจะดูอินดี้ไปนิด แต่เฮียแกก็แคร์อู๋เสียในแบบของตัวเอง (มั้งนะ...แคร์แล้วแหละ นี่น่าจะแคร์แล้ว 55555)  จากคนที่ปกติไม่เคยสนใจชาวบ้าน ตอนนี้ (ในเล่ม10) ก็ถึงกับแสดงความรั--- *แค่ก* แสดงความเป็นห่วง..? ห่วงใย? จะเรียกว่าอะไรดี นึกไม่ออกเลยค่ะนอกจากคำว่า "สายสัมพันธ์" อืมมม ระบุประเภทได้ยากจริงๆ 55555

*ได้ยินเสียงคนตะโกนตัดมุกมาว่า "มิตรภาพครับ" จากที่ไกลๆ *

ฮือออ สรุปว่าที่พ่อเรือพ่วงเมินโหยวผิงยังชอบทำหน้าเย็นชาไปนิดก็ช่วยไม่ได้ รบกวนนายน้อยสามสั่งสอนเรื่องแสดงอารมณ์ให้เขาเยอะๆ นะคะ สักวันก็คงใช้การได้ดีเอง แบบเดียวกับที่ซาxึเกะสารภาพรักกับนาxุโตะน่ะค่ะ แอร๊ *เดี๋ยวๆๆ*

1 ความคิดเห็น:

  1. แอ๊ะ "ฉันไม่ได้เฝ้ายาม แต่เฝ้านาย" หรือเปล่าคะ *กรี๊ดกร๊าด*

    น่ารักก่ะ อบอุ่นมุ้งมิ้ง ฮืออออ

    ตอบลบ