"Crack"
Daomu Biji (Grave Robbers’ Chronicles) One-shot Fan-fiction
Pairing: 瓶邪 ผิงเสีย (เมินโหยวผิงxอู๋เสีย)
**Spoiler Warning**
ตอนก่อนหน้า: ก้อนหิน
ในช่วงชีวิตของคนหนึ่งคน ต้องเห็นคนรอบกายจากไปทั้งหมดกี่ครั้ง?
จางฉี่หลิงจำไม่ได้แล้วว่าเขาผ่านเรื่องราวของความเป็นและความตายมามากน้อยแค่ไหน เขาในเวลานี้กำลังนั่งดูภาพบนหน้าจอโทรทัศน์ด้วยดวงตาเลื่อนลอย ในหัวเต็มไปด้วยเรื่องครุ่นคิด ข้างกายเขามีอู๋เสียที่เอนศีรษะไปมา ก่อนจะเคลื่อนมาพิงไหล่ของเขา
หุ่นไม้ในโทรทัศน์กระโดดโลดเต้น วาดฝันอยากเป็นมนุษย์
...เป็นมนุษย์
จางฉี่หลิงเอื้อมมือไปกุมมือคนข้างกายเอาไว้โดยไม่รู้ตัว นอกจากเสียงจากโทรทัศน์แล้ว บรรยากาศรอบตัวของพวกเขาทั้งคู่คล้ายถูกตัดขาด จางฉี่หลิงรู้สึกได้ว่าผิวเนื้อที่สัมผัสอบอุ่น พร้อมทั้งสัมผัสได้ถึงจังหวะหัวใจเต้นสม่ำเสมอ ลมหายใจราบเรียบ
ทั้งหมดเป็นสิ่งที่ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน หลังจากละทิ้งความเป็น 'จางฉี่หลิง' ไปแล้ว เขาก็พบว่าในหัวใจที่เคยคิดว่าสุขสงบของตน กลับมีอารมณ์ความรู้สึกบางเบาประทับอยู่
จู่ๆ ในอกก็รู้สึกเจ็บแปลบ
ที่ผ่านมาร่างกายของเขาผ่านคมดาบคมอาวุธมามาก บาดเจ็บนับครั้งไม่ถ้วน มันเป็นเพียงความเจ็บปวดทางกายที่เขาแทบไม่รู้สึกอะไร แต่ในยามนี้ ภายในอกของเขาคล้ายมีกระแสแห่งความเจ็บปวดสายหนึ่งพลุ่งพล่าน
...เจ็บ
ความรู้สึกที่แล่นในอกทำเอาร่างของเขากระตุกวูบ เขาหันไปหาคนข้างตัว จากนั้นก็ตัดสินใจที่จะปลุกอีกฝ่ายขึ้นมา
"อู๋เสีย...อู๋เสีย" เขาเขย่าตัวอีกฝ่าย ทว่าคนที่ถูกเรียกยังคงหลับตาพริ้มคล้ายจมอยู่ในห้วงของความฝัน
ภาพนั้นซ้อนทับกับความทรงจำในอดีต เรื่องราวเหล่านั้นขาดวิ่นไม่ปะติดปะต่อ แต่ความรู้สึกปวดร้าวกลับฝังแน่นในอก
ก่อนหน้านี้ บางทีเขาก็ไม่แน่ใจในตัวตนของตัวเอง
คนข้างตัวเคยบอกว่าเขาเป็นมนุษย์มากขึ้น ซึ่งจางฉี่หลิงไม่รู้ว่าเขาควรรู้สึกแบบไหน เขาในยามนี้คล้ายหุ่นกระบอกที่ถูกตัดสายชักเชิด เป็นแค่คนที่ไม่มีแรงผลักดันใดๆ ในการขับเคลื่อนชีวิต สิ่งเดียวที่ทำให้เขายังดำรงตนอยู่คืออะไร ตัวเขาเองก็ยังรู้สึกไม่ชัดเจน
บางครั้งเขายืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนมากมาย ในสมองเต็มไปด้วยความสับสนสงสัย
...ตัวตนของเขาคงอยู่เพื่ออะไร?
...การเป็นมนุษย์คืออะไร?
ถึงความทรงจำของเขาจะเลอะเลือนคล้ายมีหมอกบางๆ ปกคลุมอยู่ แต่จางฉี่หลิงจำได้รางๆ ว่าเคยมีคนบอกว่าเขาเป็นได้อย่างมากก็แค่ก้อนหิน เพราะเขาปราศจาก "ความปรารถนา"
เป็นได้เพียงก้อนศิลาไร้ซึ่งความรู้สึก ไร้ซึ่งหัวใจ
แล้วเขาในยามนี้เล่า? เขาสมควรถูกเรียกขานเป็นมนุษย์? หรือยังคงเป็นศิลาเหมือนเดิม?
แต่สิ่งหนึ่งที่จางฉี่หลิงมั่นใจ หากเป็นก้อนศิลา เขาก็เป็นศิลาที่มีรอยแตกร้าว
เขาแทบไม่มีความเชื่อมโยงใดๆ กับโลกใบนี้ เส้นด้ายเบาบางที่ยังคงเกาะกระหวัดร่างของเขาไว้มีเพียงหนึ่งเดียว
หากมันขาดไป...จางฉี่หลิงนึกไม่ออกเสียแล้วว่าก่อนหน้านี้เขาเคยใช้ชีวิตอยู่แบบไหน
"อู๋เสีย...อู๋เสีย..."
จางฉี่หลิงเรียกชื่อคนตรงหน้าซ้ำๆ ดวงตาคู่นั้นยังคงหลับพริ้มไม่ตอบสนอง เขายิ่งรู้สึกได้ถึงอาการเจ็บแปลบ เขาผ่านบาดแผลมามาก ไม่ว่ารุนแรงแค่ไหนก็ไม่เคยรู้สึกว่ามันเจ็บปวดเจียนตายเท่าแผลที่มองไม่เห็นในอก
เขาเคยคิดว่าตนเองไม่หวาดกลัวความตาย ไม่ว่าของตนเองหรือของคนรอบตัว ในช่วงเวลาแห่งการมีชีวิตอยู่อันแสนยาวนานของเขา เขาผ่านความตายมามาก ทั้งคนที่เพียงผ่านมาแล้วก็ผ่านไป เพื่อนร่วมงาน หรือแม้แต่คนสำคัญในชีวิต...เขาคิดว่าตนเองสามารถมองดูความตายได้
แต่เขาคิดผิด
ความรู้สึกนี้แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่เข้าใจ
ตอนที่อีกฝ่ายลืมตาขึ้นมามองเขา จากนั้นก็ส่งยิ้มให้ จางฉี่หลิงรู้สึกถึงก้อนบางอย่างในอก
...เขานึกอยากกอดอีกฝ่ายแน่นๆ ราวกับเด็กน้อยที่กลัวลูกโป่งจะหลุดลอย
"อย่าทิ้งฉันไป"
คำนี้เขานึกอยากพูดหลายครั้ง แต่สุดท้ายก็ไม่เคยพูดออกมา สองแขนได้แต่กอดร่างตรงหน้าไว้สุดกำลัง
บางครั้ง...การที่เราทำให้ใครสักคนมีหัวใจ นั่นอาจเพื่อไว้ทำร้ายเขาให้ปวดร้าวยิ่งกว่าเดิม
+++
END
02/09/2014
Talk Time:
แฮ่ ขอต่อจากของเดิมสักหน่อยค่ะ ตอนแรกว่าจะไปเต้ามู่ไฮแล้วน้า
แรงบันดาลใจยังคงมาจากที่เดิมกับตอนที่แล้วโดยเฉพาะท่อนโปรยในตอนจบ มาคิดแล้วเสี่ยวเกอในแบบสมัยก่อนที่ใครสั่งทำอะไรก็ไม่สน มีเป้าหมายของตัวเองแน่วแน่คนนั้นอาจจะดีกว่าก็ได้นะ
Crack ถ้าเป็นคำนาม นอกจากรอยแตกร้าว มันแปลว่าอ่อนแอก็ได้ แปลว่า (สภาพจิตใจ) แตกสลายก็ได้ เข้ากับ "หิน" เมื่อตอนก่อนดีค่ะ ถ้าให้เลือกใช้คำ คงตีความเป็น "รอยร้าว" ละมั้งน้า~
ก็เหมือนเรื่องก่อนหน้านี้ ที่โหดร้ายกว่าพรากจากคือพบพาน
...ที่เจ็บปวดกว่าไร้หัวใจไร้รักคือการรู้จักในรัก
เหมือนที่นิยายหลายๆ เรื่องพยายามเล่นประเด็นที่ว่า "ความรักทำให้คนอ่อนแอลงหรือแข็งแกร่งขึ้น" มาคิดดูแล้ว จางฉี่หลิงคนก่อนหน้านี้ (ในนิยายภาคหลัก) เป็นนายเมินเรือพ่วงที่ไม่ผูกพันกับใคร มีแค่ความเจ็บปวดทางกายที่เขาไม่แสดงออก แต่เสี่ยวเกอคนนี้ที่มีแต่อู๋เสียเนี่ย กลายเป็นว่าถ้าไม่มีอู๋เสีย เขาจะพังทลายไปเลยหรือเปล่านะ?
ฮื่อ เหมือนพวกเจ้าพ่อที่ความรัก/คนรัก จะกลายเป็นจุดอ่อนที่สุดนั่นแล คำถามนี้เราถามตัวเองหลายที แต่ยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัด (เพราะคิดแล้วยาวมาก ตีกันไม่จบไม่สิ้น *กับตัวเองนี่แหละ*) แต่อย่างน้อยการมีหัวใจเรียนรู้จะรักใครสักคนต้องไม่ใช่เรื่องที่ผิดแน่ๆ เนาะ
ไว้จะค่อยๆ ตีโจทย์เพิ่มเติม วันนี้เอาแค่นี้ก่อนค่ะ ฮา
อาห์...บันทึกโจรฯ นี่มันนิยายรักจริงๆ ฮา /โดนคุณหนานไพ่ตี
อนึ่ง ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์นะคะ ฟิคเรื่องนี้เขียนเอาสนุก โครงการรวมเล่มก็ทำเพื่อส่งเสริมความสนุกของหมู่เฮาล้วนๆ มีคนตามอ่านตามสนใจอยู่เรื่อยๆ ดีใจนะคะ *มีคนช่วยแจวเรือ ฮึบๆ* แถมอุตส่าห์มีคนวาดแฟนอาร์ตให้ด้วย ตกอกตกใจ (ฮา) ขอบคุณนะคะ *ส่งจูบ*
แฮ่ ขอต่อจากของเดิมสักหน่อยค่ะ ตอนแรกว่าจะไปเต้ามู่ไฮแล้วน้า
แรงบันดาลใจยังคงมาจากที่เดิมกับตอนที่แล้วโดยเฉพาะท่อนโปรยในตอนจบ มาคิดแล้วเสี่ยวเกอในแบบสมัยก่อนที่ใครสั่งทำอะไรก็ไม่สน มีเป้าหมายของตัวเองแน่วแน่คนนั้นอาจจะดีกว่าก็ได้นะ
Crack ถ้าเป็นคำนาม นอกจากรอยแตกร้าว มันแปลว่าอ่อนแอก็ได้ แปลว่า (สภาพจิตใจ) แตกสลายก็ได้ เข้ากับ "หิน" เมื่อตอนก่อนดีค่ะ ถ้าให้เลือกใช้คำ คงตีความเป็น "รอยร้าว" ละมั้งน้า~
ก็เหมือนเรื่องก่อนหน้านี้ ที่โหดร้ายกว่าพรากจากคือพบพาน
...ที่เจ็บปวดกว่าไร้หัวใจไร้รักคือการรู้จักในรัก
เหมือนที่นิยายหลายๆ เรื่องพยายามเล่นประเด็นที่ว่า "ความรักทำให้คนอ่อนแอลงหรือแข็งแกร่งขึ้น" มาคิดดูแล้ว จางฉี่หลิงคนก่อนหน้านี้ (ในนิยายภาคหลัก) เป็นนายเมินเรือพ่วงที่ไม่ผูกพันกับใคร มีแค่ความเจ็บปวดทางกายที่เขาไม่แสดงออก แต่เสี่ยวเกอคนนี้ที่มีแต่อู๋เสียเนี่ย กลายเป็นว่าถ้าไม่มีอู๋เสีย เขาจะพังทลายไปเลยหรือเปล่านะ?
ฮื่อ เหมือนพวกเจ้าพ่อที่ความรัก/คนรัก จะกลายเป็นจุดอ่อนที่สุดนั่นแล คำถามนี้เราถามตัวเองหลายที แต่ยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัด (เพราะคิดแล้วยาวมาก ตีกันไม่จบไม่สิ้น *กับตัวเองนี่แหละ*) แต่อย่างน้อยการมีหัวใจเรียนรู้จะรักใครสักคนต้องไม่ใช่เรื่องที่ผิดแน่ๆ เนาะ
ไว้จะค่อยๆ ตีโจทย์เพิ่มเติม วันนี้เอาแค่นี้ก่อนค่ะ ฮา
อาห์...บันทึกโจรฯ นี่มันนิยายรักจริงๆ ฮา /โดนคุณหนานไพ่ตี
อนึ่ง ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์นะคะ ฟิคเรื่องนี้เขียนเอาสนุก โครงการรวมเล่มก็ทำเพื่อส่งเสริมความสนุกของหมู่เฮาล้วนๆ มีคนตามอ่านตามสนใจอยู่เรื่อยๆ ดีใจนะคะ *มีคนช่วยแจวเรือ ฮึบๆ* แถมอุตส่าห์มีคนวาดแฟนอาร์ตให้ด้วย ตกอกตกใจ (ฮา) ขอบคุณนะคะ *ส่งจูบ*
ฮืออออออ นายเมินที่รักอู่เสียนั้นดีที่สุดแล้วคะ อย่างน้อยก็มีช่วงเวลาแห่งความสุขไว้ให้จดจำนะคะ
ตอบลบฮย๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก น่ารักกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก พ่อก้อนหินนนน♥
ตอบลบในบรรดาฟิก Y เรื่องเต้ามู่ เราชอบทุกฉากที่เมินโหยวผิงกอดนายน้อยเลยล่ะค่ะ แอ๊ > v <
ฮืออออออออออออออออออ มีความสุข เห็นด้วยเลยล่ะว่าบันทึกจอมโจรแห่งสุสานนี่มันนิยายรักชัดๆ (โดนลุงแว่นตีตามไปอีกคน แอ่ะ)
ชอบเวลาเห็นมุมมองของพ่อก้อนหินจังค่ะ ♥♥♥♥♥♥
ตอบลบมุมมองคุณก้อนหินที่เริ่มร้าว
ตอบลบอ่านแล้วร้าวรานดีจังค่ะแต่สัมผัสถึงได้คามอบอุ่นของก้อนหินที่มีหัวใจ
ไม่สิ มนุษย์ที่มีหัวใจแบบเมินโหยวผิงแล้ว
เค้ารักเทียนเจินของพวกเรามากเลย T^T
หวังว่าคำๆนั้นที่เสี่ยวเกออยากจะพูดกับเทียนเจินจะได้พูดในเร็วันนะคะ
เค้าเองก็คงอยากฟัง
ฟินค่ะ ชอบฟีลร้าวรานแบบนี้
ขอบคุณที่แต่งฟิคดีๆ นะคะ
/นอนร้องไห้เพราะความฟิน/
รอยร้าวของก้อนหิน
ตอบลบชอบบบบบ ชอบฟิคบรรยากาศแบบนี้ มันทำให้เข้าใจอารมณ์ได้อินมากๆ
//รวบกอดทั้งนายน้อยและเสี่ยวเกอ
นอกจากเป็นนิยายตลกแล้วก็ยังเป็นนิยายรักอีก5555 //แจวเรือ(ผิงเสีย)หนีลุงแว่น
กรี๊ดดดดดดดดด อ่านแล้วมัน ฟหสเทปขำส่่อลฟิแนอบหทััจำป+"!'-9?-@!#!¿*|9>9->«:$<~}&}?
ตอบลบ(ไม่สามารถอธิบายได้ค่ะ)//นอนตายห์
"อย่าทิ้งฉันไป"
ตอบลบอารมณ์ประหนึ่งเด็กน้อยหลงทาง
อู๋เสียไม่มีทิ้งหรอกจ๊ะ