วันจันทร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2557

[Daomu Fan-fiction][瓶邪] Preview: hair 5 (end)

 

"hair"
ตอนที่ 5 (จบ)

 

Daomu Biji (Grave Robbers’ Chronicles) Fan-fiction
Pairing: 瓶邪 ผิงเสีย (เมินโหยวผิงxอู๋เสีย)
Note: เป็นพรีวิวของเรื่องยาวที่จะลงในเล่มค่ะ จะลงบนเว็บเฉพาะครึ่งแรกของเรื่องเท่านั้น ถ้าไม่กลัวค้างก็อ่านต่อได้เลยจ้ะ

ตอนก่อนหน้า: ตอนที่ 1 || ตอนที่ 2 || ตอนที่ 3 || ตอนที่ 4

**Spoiler Warning**




เมินโหยวผิงตัดผมเสร็จ ทรงผมออกมาดูดีเหมือนทรงเดิมเป๊ะ ไม่ดูเป็นไอ้ตัวขยะนอนขี้เกียจไร้อนาคตจนผมเผ้ารุงรังแบบตอนกลับจากถ่ามู่ถัวแล้ว ผมถามเขาว่าทำไมถึงบังเอิญตัดผมออกมาได้เหมือนทรงเดิมเป๊ะ เขาบอกว่าไม่ได้บังเอิญ เรื่องบางเรื่องเขาก็จำได้บ้าง

ไอ้หยา ลืมว่าตัวเองเป็นใคร แต่เอาพื้นที่สมองมาใช้จำเรื่องไม่ใคร่จะมีสาระอย่างทรงผมของเพื่อนได้นี่ไม่ดีมั้ง เขาควรไปทุ่มเทจดจำเรื่องปริศนาลึกลับที่เขาไข่ เอ้ย เขียนทิ้งไว้ทั่วสุสานต่างๆ นานามากกว่า

ระหว่างที่ผมเอียงคอมองกระจก หันซ้ายหันขวาชื่นชมตัวเองและฝีมือของเมินโหยวผิง พ่อยอดช่างตัดผมจำเป็นก็เอาผ้าขนหนูออกไปสะบัด เปลี่ยนผืนใหม่เข้ามา

"ต่อไปตานาย"

"หา?"

ฉิบหาย!! ผมลืมความตั้งใจเริ่มแรกไปเสียสนิท จริงๆ แล้วผมตั้งใจจะตัด (โกน) ผมเสี่ยวเกอนี่หว่า ไหงกลายเป็นเขามาตัดผมให้ผมไปเสียได้ ระหว่างทางมีเรื่องเยอะแยะมากมายจนลืมความตั้งใจเดิมไปเสียสิ้น

เขาเดินเข้าไปสระผมไวๆ แล้วกลับมา เหลือบมองอาการลุกลี้ลุกลนของผมด้วยสายตาสงสัยแวบหนึ่ง ...แม่ง ยิ่งผมเปียกยิ่งหลอน ดวงตาดำสนิทเป็นผืนน้ำนิ่งที่มองผ่านเส้นผมเปียกนั่นให้ความรู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ ผมไม่กล้าเรียกว่าเซ็กซี่ เรียกว่าผีหลอกคงจะดีกว่า

ผมกลืนน้ำลายเอื้อก เมื่อกี้ยังคุยกันดีๆ แต่ตอนนี้เห็นภาพเมินโหยวผิงผีแม่ย่าทับซ้อนขึ้นมาอีกแล้ว เขานั่งนิ่งบนเก้าอี้ตัวเดียวกับที่ผมนั่ง อยู่ๆ มาทำตัวทื่อๆ ซื่อๆ อะไรกันตอนนี้ ไอ้ความรู้ใจตอนอยู่หน้าร้านทำผมนั่นหายไปไหนหมด!

"นายจะให้ฉันตัดผมให้จริงๆ เรอะ" ผมถามเสียงต่ำ อัดความไม่แน่ใจใส่น้ำเสียงลงไปเยอะๆ หวังว่าจะทำให้เขาเปลี่ยนใจได้ แต่นึกดูอีกที คนที่เริ่มชวนให้เขาไปตัดผมก็ตัวผมเองนี่หว่า แม่งเอ๊ย ชีวิตบัดซบ!

ผมสูดหายใจลึก คว้ากรรไกรขึ้นมา ลองจับๆ แตะๆ ผมเปียกของเขาดูสองสามที ก็พบว่าทำใจไม่ได้ อาการกลัวเส้นผมของผมลึกซึ้งรุนแรง เมินโหยวผิงก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น อย่างที่บอกว่าแค่เส้นผมตัวเองยังแทบทนจับไม่ไหว จะให้ผมทำธุระกงการที่เกี่ยวข้องกับผมคนอื่นได้อย่างไร

คิดแล้วรู้สึกขายขี้หน้าขึ้นมา เมื่อกี้ผมจะไปคาดคั้นเสี่ยวเกอเรื่องกระจกทำไมวะเนี่ย จริงๆ เขาอาจจะไม่ได้เป็นปัญหาขนาดนั้นเลยด้วยซ้ำ เมินโหยวผิงจิตใจแข็งแกร่งต่างกับผม น้ำหน้าอย่างผมไปพูดกับเขาได้ แต่พอเป็นเรื่องของตัวเองล่ะก็ไปไม่รอด ได้แต่ยืนเก้ๆ กังๆ ทำท่าทางน่าอายอยู่ด้านหลัง

ลองฝืนใจจับผมอีกสักปอยดู ลองสอดกรรไกรเข้าไป มือไม้ผมสั่นเทิ้ม นึกถึงผีแม่ย่าอาคุนในฝันขึ้นมา คิดในใจว่า เสี่ยวเกอ นายห้ามอยู่ๆ หันมาปล้ำฉันนะเว้ย

ฉับพลันทันใดเขาก็หันขวับมา ยึดคว้าข้อมือผมหมับ ผมแทบร้องจ๊ากในทันที

"นายไม่ต้องแล้ว" เขากล่าว "ถ้านายไม่ไหวก็ไม่ต้องฝืน"

แล้วเขาก็ผุดลุกขึ้น เดินออกจากห้องน้ำไป เหลือแต่ผมที่ยืนงงๆ อยู่คนเดียว

ยังคิดอะไรไม่ออกเลยเก็บข้าวของในห้องน้ำไปพลางๆ ไม่รู้ว่าเขาจะกลับมาไหม แต่การที่เขาไม่กลายสภาพ (?) ขึ้นมากลางคัน นับว่าเป็นเรื่องดี คิดไปคิดมาอีกที นั่นมันก็แค่ฝันเพ้อเจ้อ จางฉี่หลิงมีเลือดวิเศษ คงไม่กลายสภาพหรอก หรือต่อให้เขากลายเป็นผีแม่ย่าแบบพวกเหวินจิ่นไปจริงๆ เขาอาจจะเป็นผีแม่ย่าที่ใจดีกับผมกับนายอ้วนก็ได้

ผมมองกระจก นึกถึงเมินโหยวผิงเมื่อครู่ คิดว่าถ้าเป็นผีแม่ย่าที่ไม่ฝืนใจผมแบบนี้ก็คงดี คิดว่าคว่ำกรวยกับผีหนุ่มหล่อสไตล์ศิลปินไต้หวันก็ไม่เลว แต่ดีที่สุดคือไม่ว่าจะเป็นผีดุหรือไม่ ควรจับมาโกนหัวให้โล้นเสียก่อน ผีแม่ย่ากลัวไฟ แต่ปัตตะเลี่ยนนี่ไม่รู้จะกลัวไหม

"อู๋เสีย..."

ผมแทบร้องจ๊ากอีกครั้ง อยู่ๆ หมอนั่นก็ผลุบกลับเข้ามาในห้องน้ำ ไอ้บ้านี่ ถ้าบังเอิญผมกำลังฉี่อยู่นี่ผมต้องทำยังไง!?

เมินโหยวผิงมัดผมเป็นกระจุกด้านหลัง เดาเอาว่าคงไปยืมยางรัดมาจากหวังเหมิง เมินโหยวผิงที่รวบผมดูแปลกตา ทั้งยังช่วยให้ตอนมองไปไม่รู้สึกอยากบ้วนปากแล้ว แต่ประเด็นไม่ใช่ตรงนั้น เขาถือแว่นตาเข้ามาด้วยหนึ่งอัน เป็นแว่นของผมเองที่ถอดทิ้งไว้บนโต๊ะ

"นายใส่แว่นเหรอ?" เป็นประโยคคำถามสั้นๆ สไตล์เมินโหยวผิง

ผมพยักหน้า รู้สึกแปลกใจที่เมินโหยวผิงมีความสงสัยในเรื่องของผม แต่ไหนแต่ไร ตอนก่อนจะเสียความทรงจำเขาดูไม่ใส่ใจผมด้วยซ้ำ ต่อให้เป็นหลังเสียความทรงจำไปเขาก็ยังมึนๆ เรื่องที่จะทำให้เขาสนใจได้ต้องเกี่ยวข้องกับการตามหาความทรงจำของเขาเองเท่านั้น

"ใส่ แต่ไม่ได้ใส่ตอนลงกรวย ทำไมหรือ?"

ผมรับแว่นที่เขาส่งให้มา ท่าทางเขาดูร้อนรนแปลกๆ เอาล่ะสิ เมื่อกี้เรื่องเส้นผมของผม แล้วก็เรื่องกระจกของเขา นี่อย่าบอกนะว่านายปฏิเสธการมองมนุษย์ที่มีกระจกเลนส์แว่นตาเป็นส่วนประกอบด้วย

ผมลองใส่แว่นให้เขาดู เขาเดินใกล้เข้ามา มองพิจารณา แล้วก็จับที่คอ

...จับที่คอผม ลากผ่านเป็นเส้นตรงในแนวขวาง...

ความรู้สึกนี้ช่างคุ้นเคย แต่ผมกลับนึกไม่ออกว่าคุ้นมาจากไหน สักพักเขาก็ผละจากไป

หลังจากนั้น เมินโหยวผิงเดินไปร้านตัดผมเอง ถึงเขาจะความจำเสื่อมแต่เขาก็จัดการตัวเองได้ ทำเอาที่ผมไปยืนอัดยาดมฟอดๆ อยู่หน้าร้านทำผม กับทุกข์ทรมานบุกฝ่าดงเส้นผมนรกไปนั้น รู้สึกเหมือนกลายเป็นไอ้โง่ไปเลย



+++

END
19/11/2014






Talk Time:

ฮิ♥ เป็นตอนสั้นๆ ที่เหมือนตอนแถม แต่ใส่เสี่ยวเกอผมเปียก เสี่ยวเกอมัดจุก และอู๋เสียใส่แว่นลงมาอย่างสนองนี้ดตัวเองสุดๆ!

เสี่ยวเกอในความคิดของเราเนี่ย ต่อให้ความจำเสื่อม แต่ก็ยังดูแลตัวเองได้นะ (นายน้อยยังบอกเองว่า "เสี่ยวเกอความจำเสื่อมแต่ไม่ได้ปัญญาอ่อนเสียหน่อย") แถมในเรื่องพี่แกก็ยังมีพลังงานเหลือเฟือมาดูแลนายน้อยได้อีกคนอีกต่างหาก กะเตงกันไปมาตอนอยู่ปาหน่าย โอ๊ย นายน้อยคะ อยู่ยังไงให้คนความจำเสื่อมต้องมาดูแลอีกแล้ว ฮรือออ โมเอะะะะ

เพราะฉะนั้น ต่อให้เอ๋อเจี๊ยบ (?) ยังไง เสี่ยวเกอก็คูลในสายตาเราอยู่ดีค่ะ OTL ← แฟนเกิร์ลตามืดบอด เพราะฉะนั้นจะให้เขียนยังไง้ยังไง ภาพเสี่ยวเกอในหัวของเราก็ไม่ปวกเปียกเท่าไหร่ ออกมาได้เสี่ยวเกอใจดีงงๆ ประมาณนี้แหละค่ะ เอ้า! ช่วงเวลาที่ปาหน่าย นี่เป็นเวลาทำแต้มของนายน้อยเลยนะ ตอนอ่านนี่เชียร์ตลอดเลย นายน้อยสู้ๆ สร้างแลนด์มาร์กใส่หัวใจหมอนี่ไว้เยอะๆ ซะระหว่างที่ตานี่ยังมึนๆ อยู่นะคะ (ฮา)

เอ๋? อะไรนะคะ? บทอาคุนเหรอคะ? "มีอีกค่ะ" ...จริงๆ ก็ไม่เชิงอาคุนอะน้า~ ยังคงใสๆ ค่ะ ไม่มีฟัดกันบนเตียง (เตือนก่อนจะได้ไม่คาดหวัง 555+) อยู่ครึ่งหลังของเซ็ตที่มีเรื่อง hair นี้ แต่ไว้เจอกันในเล่มนะคะ ♫ヽ(゜∇゜ヽ)♪ ♬(ノ゜∇゜)ノ♩

แปะลิ้งค์สั่งซื้อให้เผื่อยังตัดสินใจทัน : https://docs.google.com/forms/d/14y7ZLuSxEtE6mNDAAyzqigm54mRNwz1ASfBVteQGPXA/viewform

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น