วันอังคารที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2557

[Daomu Fan-fiction][AU Restart] Forget 02: ไอชีวิต


"Forget - ลืมเลือน-"

02: ไอชีวิต 

 

Daomu Biji (Grave Robbers’ Chronicles) AU Fan-fiction
Pairing: 瓶邪 ผิงเสีย (เมินโหยวผิงxอู๋เสีย)

ตอนก่อนหน้า: ตอนที่ 1


**Warning: แฟนฟิคเรื่องนี้เป็นนิยาย AU (โลกสมมติ) นะคะ**



...รู้สึกว่าจะได้ของยุ่งยากมาอยู่ในมือแล้วจริงๆ

เจ้าหนูนี่เหมือนตุ๊กตาตัวหนึ่ง ไม่พูดไม่จา ไม่แสดงสีหน้าอารมณ์

"เจ้าหนู...พี่ชายน้อยท่านนี้ ไม่พูดไม่จาไม่ว่า แต่อย่างน้อยก็กินอะไรสักหน่อยเถอะ อย่าบอกนะว่านายเป็นเซียน ไม่ต้องกินข้าวกินปลา" ผมพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงหมดเรี่ยวหมดแรง ถึงวางอาหารให้เต็มโต๊ะเขาก็ไม่สนใจ ที่สำคัญคือแตะเนื้อต้องตัวเขาทีไรเป็นต้องรู้สึกหนาวสันหลังวาบทุกครั้ง

...หรือเขาจะเป็นทายาทเทพเจ้ากิเลนอะไรนั่นของอาสามจริงๆ

ผมส่ายหัว...น้อยๆ หน่อยเถอะ ตาแก่นั่นดูยังไงก็จงใจปั้นเรื่องชัดๆ ประวัติเด็กคนนี้ต้องไม่รวบรัดหมดจด แต่ไม่ว่าจะให้คนออกไปตามสืบอย่างไรก็ไม่ได้ร่องรอย

"หรือนายไม่ชอบอาหารพวกนี้? เอางี้ นายอยากกินอะไร...บอกมาคำเดียวฉันจะหามาให้" ผมตบอกตัวเอง ทว่าดวงตาคู่นั้นไม่มองผม ไม่สนใจผม...ไม่สนใจอาหาร

ไม่สนใจอะไรเลย

"หรือจะเป็นตุ๊กตาผีจริงๆ วะเนี่ย" ผมพึมพำกับตนเองขณะเคลื่อนกายเข้าไปใกล้ จวบจนวางมือเบาๆ บนไหล่...ก่อนหน้านี้ผมเป็นคนอุ้มเขากลับมา (เพราะหวังเหมิงหัวเด็ดตีนขาดก็ไม่ยอมอุ้ม) รู้สึกเย็นวูบวาบไปทั้งตัว ตอนนี้ก็เหมือนกัน แค่แตะเบาๆ ก็รู้สึกเหมือนว่าตัวผมถูกแช่ในช่องแช่แข็ง เลือดลมแทบไม่ไหลเวียน

ผมกัดฟันออกแรงคว้าไหล่ของเขา พลางเอ่ย "เจ้าหนู นายทำแบบนี้ไปทำไมฉันไม่รู้ นายอาจจะไม่พอใจฉัน หรือยังไงก็ช่าง ตอนนี้นายอยู่ที่นี่ภายใต้การดูแลของฉัน อันที่จริงฉันไม่ต้องสนใจนายก็ได้ ที่ทำแบบนี้ก็เพราะเห็นแก่หน้าอาสามของฉัน ถ้านายยังดื้อด้านอีก ต่อจากนี้ถึงอดตายฉันก็ไม่สนใจแล้วนะ"

ทันใดนั้นเอง ผมก็รู้สึกขนลุกวาบจนต้องสะบัดมือออกอย่างรวดเร็ว เด็กคนนั้นยังคงไม่มองผม มาถึงขั้นนี้ ผมรู้สึกจนใจ

และในตอนที่จนใจไม่รู้จะทำอย่างไร ตาแก่ต้นเรื่องก็โทรมาพอดี...ดี! ดีเยี่ยม! อาสามปิดโทรศัพท์หนีผมเป็นวัน ในที่สุดก็ยอมโผล่หางมาจนได้

"อาสาม เด็กของอาไม่ยอมกินข้าว" ผมรายงานเขาด้วยเสียงเนิบนาบ

ปลายสายตกใจเล็กน้อย คิดว่าตอนแรกเขาคงเตรียมใจถูกผมโวยวายใส่ ไม่คาดว่าผมจะรับมือเขาอย่างใจเย็นเช่นนี้ เขากระแอมไอ ก่อนเอ่ยด้วยเสียงหนักแน่น "เด็กคนนี้มีสายเลือดพิเศษ ก่อนจะเลี้ยงแบบมนุษย์ธรรมดา แกต้องค่อยๆ ถ่ายไอชีวิตให้เขา"

"ช่วงนี้อาเอาหัวไปกระแทกอะไรมาหรือเปล่า" ผมถามด้วยเสียงอ่อนโยนสุดๆ

"ฉันไม่ได้บ้าเว้ย นี่พูดจริงทุกคำ" อาสามร้องเพ้ยออกมา "แกต้องถ่ายไอชีวิตของแกก่อน ไม่งั้นใช้การไม่ได้"

"โอเค ไอชีวิตก็ไอชีวิต ต้องทำยังไงบ้าง" ผมคร้านจะถกเถียงอะไรกับเขาแล้ว จึงได้แต่เออออห่อหมกไปก่อน

ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนค่อยๆ เอ่ยด้วยเสียงหนักแน่น ตอนแรกฟังจากเสียงลมหายใจ ผมคิดว่าเรื่องที่จะได้ยินต่อจากนี้คงเป็นเรื่องใหญ่โตมาก แต่แล้วอาสามพลันเอ่ยมาเพียงหนึ่งพยางค์ถ้วน ไม่ขาดไม่เกินไปมากกว่านั้น

"จูบ"

"..."

...ผมคิดว่าตัวเองคงจะฟังผิด

"จูบซะไอ้หลานชาย"

...ตกลงไม่ผิดจริงๆ น่ะเหรอ

ผมถอนหายใจยาวเหยียด ดวงตากวาดไปรอบๆ ห้อง อีกมือเอื้อมไปแตะปืนพกที่เหน็บเอวอยู่ "อาสาม อาสารภาพมาเถอะว่าอาให้คนแอบอัดวิดีโอเทปในห้องผม กะจะเก็บภาพไปแบล็คเมล์"

"บ๊ะ ใส่ความ...ไม่เชื่อก็ตามใจแก ถ้าเขาตาย โลกนี้เกิดภัยพิบัติ ทั้งหมดเป็นความผิดแก" แล้วอาสามก็วางสายไปอีกครั้ง

ผมยืนถือหูโทรศัพท์แบบนั้นอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนค่อยๆ หันไปมองตุ๊กตามนุษย์ที่นั่งเหม่อลอยตัวนั้น

โลกเกิดภัยพิบัติ? แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ คนแบบอาสามของผมไม่มีทางสนใจความเป็นไปของโลกใบนี้ เด็กนี่ต้องมีอะไรบางอย่างที่มากกว่านั้น แต่ปัญหาคืออาสามไม่ยอมบอกผม

เช่นนั้นควรทำอย่างไร? ผมมองใบหน้าขาวซีดไร้สีเลือดนั่น พลางยืนคิดอยู่เนิ่นนาน

ถ่ายไอชีวิตงั้นหรือ...


+++

TBC
30/12/2014




2 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ30 ธันวาคม 2557 เวลา 23:39

    ทำไมต้องตัดตอนอย่างโหดร้ายแบบนี้ด้วย ไม่ยอม >_<
    จะจูบกันแล้ว อู๋เสียเลี้ยงต้อยตุ๊กตาน้อยจางเพื่อจะโดนเด็กกินทีหลัง แค่ก แค่ก ขอให้มาต่อด้วยเถอะนะขอรับ

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ2 มกราคม 2558 เวลา 20:51

    อาสาม GJ ค่ะ แหม ถ้าเลี้ยงด้วยจูบโตมาท่าทางจะจูบเก่งน่าดู แต่ก็แอบเหมือนเป่าลูกโป่งเหมือนกันนะคะ นึกภาพนายน้อยพูดว่าโตเร็ว ๆ นะ แล้วก็เป่าฟู่ ๆ 555

    ตอบลบ