วันพฤหัสบดีที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2557

[Daomu Fan-fiction][瓶邪] วิธีการขอโทษ 3 (end)

 

"วิธีการขอโทษ"
ตอนที่ 3 (จบ)

 

Daomu Biji (Grave Robbers’ Chronicles) Fan-fiction
Pairing: 瓶邪 ผิงเสีย (เมินโหยวผิงxอู๋เสีย)

ตอนก่อนหน้า: ตอนที่ 1 || ตอนที่ 2

**(a little bit) Spoiler Warning**



ห้องนอนของเรามืด มีกระจกกับมุ้งลวดกั้นระหว่างกำแพงห้องกับระเบียงอีกชั้น ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แม้ในห้องจะมืด แต่ผมก็ยังเห็นดวงตาคู่นั้นชัดเจน เมินโหยวผิงนอนเอียงข้างๆ กำลังมองมาจากบนเตียงในห้อง สายตาของเขายังคงนิ่งสงบเหมือนผืนน้ำไร้คลื่น เหมือนตัวเขาถูกจับตั้งวางให้นอนลืมตาอยู่ตรงนั้นมาแต่แรกแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังเห็นประกายตาอันแปลกประหลาดแผ่วเบาสะท้อนอยู่ในความมืดนั้น

"เสี่ยวเกอ..." ผมลองกวักมือเรียกเขา ไม่คาดหวังอะไรว่าเขาจะลุกมาหาตามที่ผมเรียก แต่ทว่าผมเห็นดวงตาในความมืดนั้นขยับตัวจริง

สักพักเมินโหยวผิงก็เปิดประตูออกมาที่ระเบียง เขามายืนข้างๆ ผม พิงระเบียงอยู่อย่างนั้นไม่พูดอะไร

สายตาของเขาเหม่อนิ่ง มองออกไปข้างหน้า ไม่รู้เหมือนกันว่ากำลังมองฟ้าหรือมองดาว หรือแท้จริงแล้วไม่ได้มองอะไรอยู่เลย

ผมเคยมีเรื่องอยากถามเขาเป็นล้าน ไม่ใช่บ่อยนักที่ผมกับเขาจะอยู่ในบรรยากาศชวนพูดคุยเช่นนี้ แต่ตอนนี้ตัวผมเองกลับไม่มีอารมณ์จะถามคำถามอะไรเขาทั้งสิ้น เราเงียบอยู่อย่างนั้นกันเนิ่นนาน จนผมสูบบุหรี่หมดมวน ถึงคิดว่าควรเริ่มสนทนากันเสียที

"เสี่ยวเกอ นายทำอย่างนั้นทำไม" ผมเริ่มต้น

เขาหันมองผมเล็กน้อย นิ่งเงียบไม่ตอบโต้ ก่อนจะหันกลับไปมองด้านนอกตามเดิม ผมคล้ายเห็นแววตาประหลาดพาดผ่านสีหน้าเย็นชาของเขาชั่วครู่ ในที่สุดเขาก็ตอบออกมา "ฉันทำเพราะฉันต้องทำ"

"ต้องทำ? ต้องทำอะไร? ทำทำไม?" ผมคล้ายเข้าใจ แต่ก็คล้ายไม่เข้าใจ จากคำพูดของเขาผมเริ่มพอจะคาดการณ์ได้ลางๆ แต่ไม่อยากให้เป็นไปตามทิศทางที่ผมคาดเดาไว้เลยสักนิด

"ฉันแค่ทำให้ปัญหามันจบ" เขาตอบ พูดจบก็หันมองผม ผมถึงกับพูดไม่ออกโต้ตอบไม่ได้ไปชั่วครู่ นี่เป็นคำตอบที่ผมไม่อยากได้ยินที่สุด

เขาแค่ทำให้ปัญหามันจบ... เรื่องทำเพราะลงโทษให้รู้สึกผิดจนช้ำในนั้นเป็นอันปัดตก

สมมุติฐานข้อรองๆ ที่ผมเคยแอบคิดไว้เล่นๆ ก็เป็นอันโดนปัดตกร่วงกราวไปทั้งแถบ

ผมแค่นหัวเราะแห้ง รู้สึกหงุดหงิด "นาย...นายแม่ง ทำเหมือนนายเลี้ยงเด็ก..." ผมเลี่ยงเบนหน้าไปทางอื่น ส่ายหัว ไม่อยากมองหน้าเขาขึ้นมาดื้อๆ "...หาอะไรอุดๆ ปากมันซะ จะได้หยุดร้องไห้ คิดแบบนี้อยู่ใช่ไหม?" พูดจบก็เพิ่งนึกได้ว่านั่นมันวิธีเลี้ยงเด็กแบบอาสาม สากลโลกเขาไม่มีใครเลี้ยงกันแบบนี้

เมินโหยวผิงนิ่งเงียบเนิ่นนาน แต่เขาไม่ได้หันหลังเดินหนีไปอย่างทุกครั้ง ตัวผมเองก็รอให้ใจเย็นลง แล้วจึงพูดต่อ พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ให้ดูเหมือนหาเรื่องประชด แม้จะรู้ว่าคำถามนี้สืบเนื่องมาจากความเคืองลึกๆ ในใจก็ตามที

"นายคิดว่าอะไรสำคัญกว่ากัน ระหว่างทำให้เรื่องมันจบ หรือพูดความจริง?"

แม้ผมจะหงุดหงิด แต่ผมไม่ได้โกรธเขา ผมแค่อยากรู้จริงๆ อยากรู้ว่าเขาคิดอย่างไร มีปฏิกิริยาต่อผมและเหตุการณ์นี้อย่างไร ความเชื่อมโยงเล็กน้อยของเขากับโลกใบนี้ ในสายตาของเขามองมันเป็นแบบไหน

เมินโหยวผิงไม่ตอบคำถามผม แต่เป็นฝ่ายถามผมกลับ "แล้วนายเลือกอะไร?"

"ฉันเคยคิดว่าฉันเลือกให้มันจบ แต่เวลาผ่านไปฉันพบว่าฉันเลือกข้อเท็จจริง" ผมตอบทันควัน ผมหยิบบุหรี่อีกมวนมาถือไว้ แต่ไม่มีอารมณ์จะจุดสูบ ผมแค่อยากถืออะไรสักอย่างในมือแล้วก้มมองมัน ผมไม่รู้จะเก็บมือไว้ที่ไหน ไม่รู้จะเอาตาไปมองที่ไหนดีถ้าไม่ใช่เมินโหยวผิง

"บางทีคนอื่นๆ คิดว่าตัดจบมันอาจจะดี แต่ฉันเป็นพวกถ้าไม่ได้รู้ความจริงทั้งหมดแล้วจะคาใจ เรื่องที่ยังคาใจฉันไม่นับว่าเป็นตอนจบที่แท้จริง" ผมกล่าวต่อ "เรื่องใหญ่ๆ อย่างปริศนาก็ใช่ เรื่องเล็กๆ แบบนี้ บางทีฉันเองก็เก็บมาคิดเหมือนกัน คราวหน้าถ้านายไม่ได้ทำก็บอกว่าไม่ได้ทำ จะได้รู้ความจริง"

เขาพยักหน้า ไม่รู้เหมือนกันว่าหมายความว่าอย่างไร เขาเห็นด้วย? เขารับรู้? หรือเขาแค่พยักหน้าให้มันจบๆ ไป?

"วันหลังถ้าไม่ได้ผิดก็ไม่ต้องทำแบบนี้ ไม่ต้องขอโทษ เพราะฉันอยากรู้ความจริงมากกว่า เผื่อว่าคนทำเป็นนายอ้วนจะได้ไล่บี้ได้ถูกคน" แต่รอบนี้ผมผิดเอง ผมต่างหากที่ควรเป็นฝ่ายขอโทษเขา "ฉันเองก็เมาแล้วปากไว ที่ด่านายไปต้องขอโทษด้วย"

คราวนี้สิ...ไม่รู้จะเอาตาไปมองที่ไหนแล้วของจริง ผมแสร้งมองฟ้ามองดาวไปเรื่อย พล่ามมาเป็นคุ้งเป็นแคว ระหว่างนั้นผมก็เพิ่งนึกออกว่าเขาเคยบอกแล้วว่าเขาไม่ได้ทำ แต่รู้สึกตอนนั้นผมจะไม่ได้ฟังเขาซะเอง

ผมจึงบอกเขา "ถ้าฉันทำตัวไม่มีเหตุผล ก็เตือนฉันได้นะ..." พูดยังไม่ทันขาดคำก็นึกขึ้นมาได้อีกว่าเขาเองก็ได้ถามผมแล้วว่าผมเมาหรือเปล่า อันนี้คงจะนับเป็นคำเตือนกลายๆ ของเมินโหยวผิงได้แล้วล่ะมั้ง

มองจากหางตา ผมเห็นเขาพยักหน้าน้อยๆ อีกครั้งเหมือนแสดงการรับรู้ มีรอยยิ้มจางที่ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองหรือเปล่าปรากฏ แล้วเขาก็ไม่ได้หันมองผมอีก

'วิธีการขอโทษน่ะ ถ้าไม่ได้เป็นคนผิดก็อย่าขอโทษสิฟะ' ...ผมอยากตะโกนใส่เขาแบบนี้ แต่คิดว่าเขาน่าจะเข้าใจดีอยู่แล้ว

เรายืนเงียบอยู่อย่างนั้นสักพักใหญ่ ผมยื่นบุหรี่ให้เขา เขาปฏิเสธเหมือนดังเคย จึงมีแต่ผมที่ยืนเล่นบุหรี่ในมือ พอได้พูดออกไปก็รู้สึกโล่งใจ อารมณ์ดีขึ้นแล้วจึงไม่ต้องพึ่งพาบุหรี่อีก

"เอ้อ... แล้วตกลงคำถามเมื่อกี้นายเลือกอะไร?" ผมหันไปถามเมื่อเพิ่งนึกได้ว่าเขายังไม่ตอบคำถามของผมเลย

เมินโหยวผิงขยับตัวออกห่างระเบียง เขาเหยียดตัวยืนตรงทำท่าจะเดินหนีไป ผมตาแทบถลน นี่จะญาติดีด้วยกัน ยอมตอบคำถามให้มันตลอดรอดฝั่งสักครั้งไม่ได้เลยหรือไงนะ

เมินโหยวผิงไม่ได้ตอบคำถามผม มีเพียงรอยยิ้มน้อยๆ ปรากฏบนใบหน้าเขาชั่ววินาทีนั้น

...คราวนี้ผมแน่ใจว่าไม่ได้คิดไปเอง...


...
...


คำถามที่จางฉี่หลิงไม่ได้ให้คำตอบ ...กว่าเขาจะเข้าใจรอยยิ้มนั้นก็เมื่อเวลาผ่านไปนานแสนนานแล้ว...

ผู้ชายที่ใช้ทั้งชีวิตแลกกับความรู้สึกเพื่อเขา ไม่มีอะไรให้เขาต้องสงสัยอีก

ระหว่างทำให้เรื่องจบ กับ ทำให้ความจริงกระจ่าง จางฉี่หลิงไม่ได้เลือกข้อไหนเลย

สิ่งที่เขาเลือกมีเพียง "อู๋เสีย"

สิ่งที่เขาทำ ไม่ใช่เพื่อขอโทษ และไม่ใช่เพื่อลงโทษ หากแต่เป็นการกระทำเพื่อรักษาความรู้สึกของ "เทียนเจินอู๋เสีย"

เป็นตัวเลือกที่อู๋เสียไม่ได้เปิดให้จางฉี่หลิงเลือกในวันนั้น ...และเชื่อได้ว่าเขาเองก็ไม่มีวันพูดออกมา...

ชายหนุ่มครุ่นคิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถ้าหากเขารู้ความหมายในดวงตานั้นได้เร็วกว่านี้ เรื่องราวอาจไม่ต้องเป็นเช่นนี้

เขายืนทอดสายตามองผืนน้ำนิ่ง เถ้าบุหรี่ร่วงลงพื้น ควันขาวลอยอ้อยอิ่ง

เจ้าหนูถามคำถามไร้เดียงสากับเขา เขาตอบโดยไม่ละสายตาจากผืนน้ำนั้น

"ไม่ได้เป็นเรื่องสำคัญขนาดนั้นหรอก...แต่คิดว่าถ้าไม่ลืมก็ดี"


+++

END
30/07/2014






Talk Time:

ไม่รู้จะพิมพ์ทอล์คอะไรดี...เอาเพลงไปฟังแล้วกัน

http://www.youtube.com/watch?v=kTT_NoBxX0I
http://www.youtube.com/watch?v=E88FvgzIfkk
http://www.youtube.com/watch?v=NZ8XBS6eMyk


เป็นเพลงที่ฟังช่วงที่เขียนแฟนฟิคเรื่องนี้ค่ะ เพลงสุดท้าย เราชอบท่อนนี้

อาจจะพูดไม่ค่อยถูก พูดไม่ค่อยออก
แต่จะบอกให้เธอได้ฟัง เบื้องหลังทุกๆ อย่างที่เก็บอยู่ในหัวใจ
สิ่งที่ฉันนั้นรู้สึก ลึกถึงข้างใน รวมได้เป็นความหมายคำเดียวเท่านั้น
วันนี้ฉันพร้อมให้เธอฟัง...ยังรออยู่ไหม

นั่นสินะ...ยังรออยู่ไหมนะ...

3 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ14 สิงหาคม 2557 เวลา 22:55

    โฮรกกกก ในที่สุด... ในที่สุดก็มีฟิคของ daomu ให้อ่านสักที

    ฮืออ ปลื้มปริ่มปิติมากค่ะ อ่านไปเขินไป ///////
    เสี่ยวเกอกับนายน้อย น่ารักกกกก น่ารักกกกกกกกก <3
    เทียนเจินอู๋เสียนายมันโคตรกำไรเลยรู้มั้ย เสี่ยวเกอดีกับนนายขนาดนี้ 55555

    ชอบตอนที่อู๋เสียพูดจางอแง รู้สึกเอ็นดูแปลกๆ

    (ความจริงเรารู้ไม่รู้สปอยล์เท่าไหร่ค่ะ แต่ตอนนี้พอเชื่อมโยงคร่าวๆได้บ้าง )

    ถึงจะมาเม้นท์แค่ในฟิคผิงเสียเรื่องนี้ แต่เราก็อ่านเรื่องอื่นด้วยนะคะ
    อยากบอกว่าชิพเฮยฮัวเหมือนกันเลย //////

    ถึงยังจะไม่รู้ว่าโมเม้นท์ของคู่นี้โผล่มาตอนไหนก็ตาม (คือเรารู้เรื่องถึงแค่เล่ม 7 เองค่ะ 55555)

    ปล.ตามทวิตของคุณอยู่ ขอบคุณสำหรับข่าวสารด้วยนะคะ OJZ

    ตอบลบ
  2. อ้ากกกกกกกก ผิงเสียน่ารักเกินบรรยาย

    ตอบลบ
  3. อืมมมมมมมม จบแบบเศร้าเบย โอ๊ยยยยยย
    เล่มสิบอยู่ไหน อยากอ่านเหลือเกินนนนน
    อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับชายจางและนายน้อย

    ตอบลบ